สิว ปัญหาผิวหน้ากวนใจที่ใครๆ ก็ไม่อยากเจอ แต่ยิ่งรักษาสิวไม่ถูกวิธี รอยสิวก็ตามมา “หลุมสิว” ก็อาจเกิดขึ้นได้ การมีหลุมสิวบนใบหน้าจึงสร้างความรำคาญใจ หลายคนจึงมองหาวิธีรักษาหลุมสิวเพื่อเผยผิวเรียบเนียน
ทำความเข้าใจหลุมสิว คืออะไร ?
หลุมสิว (Atrophic Scars) คือ รอยแผลเป็นที่เกิดจากสิวอักเสบ มักหลงเหลือจากสิวอักเสบและสิวขนาดใหญ่ เช่น สิวหัวช้าง ที่เกิดบนผิวแต่รักษาได้ไม่สมบูรณ์ แผลสมานไม่เต็มที่ ทำให้เกิดเป็นหลุมสิวได้ โดยหลุมสิวจะมีลักษณะเป็นหลุม เป็นรอยบุ๋มในผิว ผิวไม่เรียบเนียนเท่ากัน
หลุมสิวเกิดจากอะไร ?
หลุมสิวเกิดจากการที่บาดแผลบนผิวหนังรักษาตัวไม่สมบูรณ์หลังจากสิวอักเสบเรื้อรัง โดยปกติแล้วเมื่อสิวหาย ผิวหนังจะทำการซ่อมแซมตัวเอง แต่หากการอักเสบของสิวรุนแรง หรือเกิดการบาดเจ็บจากการแกะเกา กด หรือบีบสิว แผลที่เกิดขึ้นอาจไม่สามารถสมานได้สนิท ทำให้เกิดรอยบุ๋มหรือหลุมสิวนั่นเอง
สาเหตุหลัก ของการเกิดหลุมสิว คือ การรักษาสิวที่ผิดวิธี เช่น การกดหรือบีบสิวในชั้นผิวที่ลึก ก่อให้เกิดการบาดเจ็บหรือการอักเสบของผิว ทำให้การซ่อมแซมผิวหนังจากคอลลาเจนและเนื้อเยื่อนั้นสร้างขึ้นไม่เพียงพอ เมื่อแผลหายแล้ว แต่บริเวณดังกล่าวก็ไม่สามารถกลับมาเรียบเนียนได้
ปัจจัยหลัก ที่ทำให้เกิดหลุมสิว ได้แก่
- สิวอักเสบรุนแรง: สิวที่มีการอักเสบรุนแรง มักมีขนาดใหญ่ ลึก และฝังลึกลงไปในชั้นผิวหนัง เมื่อสิวหาย แผลที่เกิดขึ้นอาจมีขนาดใหญ่เกินกว่าที่ร่างกายจะซ่อมแซมได้ทัน เกิดเป็นหลุมสิว
- การรักษาสิวที่ผิดวิธี: การแกะเกา กด หรือบีบสิว โดยเฉพาะสิวอักเสบ จะยิ่งทำให้เกิดการอักเสบและบาดเจ็บของผิวหนังมากขึ้น ส่งผลต่อการสมานแผล ทำให้เกิดหลุมสิวได้ง่าย
- พันธุกรรม: บางคนมีผิวหนังที่ไวต่อการเกิดแผลเป็น
แน่นอนว่าการป้องกันหลุมสิวที่ดีที่สุด คือ รักษาสิวให้ถูกวิธี ดังนั้น ควรเลือกคลินิกที่ใช่เพื่อป้องกันหลุมสิว หน้าใสไร้รอย มั่นใจในทุกสถานการณ์
ผิวดีคลินิก คลินิกรักษาสิวที่มุ่งมั่นให้บริการด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัยและได้มาตรฐาน พร้อมช่วยให้คุณมีใบหน้าที่ใสไร้สิว ไร้รอย หลีกเลี่ยงปัญหาหลุมสิว
ประเภทของหลุมสิว มีแบบไหนบ้าง
หลุมสิวสามารถแบ่งออกเป็น 3 ประเภทหลักๆ ดังนี้
1. หลุมสิวแบบคลื่น (Rolling Scar)
เป็นหลุมสิวที่มีลักษณะเป็นหลุมเว้าลงไปไม่ลึก ก้นหลุมสิวอาจกว้าง แต่ไม่กินลึกถึงชั้นหนังแท้ มักเกิดจากสิวอุดตันหรือสิวอักเสบที่ไม่รุนแรง หลุมสิวประเภทนี้สามารถรักษาให้ดีขึ้นได้ด้วยการทายาหรือทำเลเซอร์
2.หลุมสิวแบบกล่อง (Boxcar Scar)
เป็นหลุมสิวที่มีขนาด 3-5 มิลลิเมตร เห็นขอบหลุมสิวชัดเจน ลึกประมาณ 3-5 มิลลิเมตร มักเกิดจากสิวอักเสบที่มีขั้นลึก หลุมสิวประเภทนี้รักษาได้ยากกว่าหลุมสิวระดับตื้น อาจต้องใช้การรักษาหลายวิธีควบคู่กัน เช่น การทายา การทำเลเซอร์ หรือการผ่าตัด
3. หลุมสิวแบบแท่งน้ำแข็ง (Ice Pick Scar)
เป็นหลุมสิวที่มีลักษณะเป็นหลุมแคบแต่ลึก ก้นหลุมสิวแหลมคล้ายกรวย เกิดจากการกดหรือบีบสิวอุดตันจนสิวกินเนื้อไปถึงชั้นรูขุมขนและทำลายลึกลงไปถึงชั้นผิวหนังแท้ หลุมสิวประเภทนี้รักษาได้ยากที่สุด อาจต้องใช้การรักษาหลายวิธีควบคู่กันเป็นเวลานาน
นอกจากนี้ ยังมีหลุมสิวประเภทอื่นๆ อีก เช่น
- หลุมสิวแบบรอยแผลเป็นเป็นคลื่น (Wave Scars): มีลักษณะเป็นคลื่นบนผิวหนัง มักเกิดจากพังผืดใต้ผิวหนัง
- หลุมสิวแบบรอยแผลเป็นหดรัด (Contracted Scars): มีลักษณะเป็นรอยแผลเป็นที่หดรัด ทำให้ผิวหนังดูตึง
ทั้งนี้ ประเภทของหลุมสิวอาจไม่ชัดเจนเสมอไป บางคนอาจมีหลุมสิวหลายประเภทบนใบหน้า
หลุมสิวรักษายังไงได้บ้าง ?
1. หลุมสิวแบบรูเข็ม (Ice Pick Scars) หลุมสิวแบบรูเข็มสามารถรักษาได้ง่ายกว่าหลุมสิวประเภทอื่นๆ
2. หลุมสิวแบบรอยแผลเป็นกลม (Boxcar Scars) หลุมสิวแบบรอยแผลเป็นกลมรักษาได้ยากกว่าหลุมสิวแบบรูเข็ม
3. หลุมสิวแบบรอยแผลเป็นเป็นรอยแผลเป็น (Rolling Scars) หลุมสิวแบบรอยแผลเป็นเป็นรอยแผลเป็นรักษาได้ยากที่สุด
การรักษาหลุมสิวทั้ง 3 มีวิธีการรักษาที่นิยมใช้ ได้แก่
- ยา หรือ ครีมรักษาหลุมสิว เช่น กรดวิตามินเอ ยาผลัดเซลล์ผิว
- เลเซอร์หลุมสิว เช่น Fraxel CO2 Laser, Thermage RF, Pico Laser
- การเติมฟิลเลอร์ ฟิลเลอร์ชนิดไฮยาลูรอนิกแอซิด
บอกลาหลุมสิว ให้ผิวเนียนสวยด้วยการเลเซอร์หลุมสิว
การเลเซอร์หลุมสิว เป็นวิธีการรักษาหลุมสิวที่มีประสิทธิภาพสูง ช่วยให้ผิวหน้าเรียบเนียนขึ้น โดยใช้พลังงานเลเซอร์กระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและอีลาสตินใหม่ใต้ชั้นผิว ทำให้หลุมสิวตื้นขึ้น รูขุมขนกระชับ และสีผิวสม่ำเสมอ เหมาะกับผู้ที่มีหลุมสิวตั้งแต่ระดับตื้นถึงลึก
เลเซอร์หลุมสิวมีหลายประเภท แต่ละประเภทมีกลไกการทำงานและผลลัพธ์ที่แตกต่างกัน แพทย์ผู้เชี่ยวชาญจะเลือกใช้เลเซอร์ที่เหมาะสมกับสภาพผิวและความรุนแรงของหลุมสิว
เลเซอร์หลุมสิวที่นิยมใช้ ได้แก่
Pico Laser
เลเซอร์ชนิดนี้ปล่อยพลังงานแสงเลเซอร์ที่มีความยาวคลื่นสั้น ลงสู่ชั้นผิวเป็นจุดๆ ทำลายเม็ดสี กระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและอีลาสตินใหม่ เหมาะกับหลุมสิวที่มีความลึกตื้นถึงปานกลาง และรอยดำ รอยแดงจากสิว
โดย Pico Laser เทคโนโลยีเลเซอร์ล้ำสมัย ยิงคลื่นแสงความเร็วสูง ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและอีลาสติน ลดเลือนรอยหลุมสิวได้อย่างมีประสิทธิภาพ เหมาะกับหลุมสิวทุกประเภท ทั้งหลุมสิวร่องลึก หลุมสิวอุดมฝอย และหลุมสิวแผลเป็น
เลเซอร์หลุมสิว ที่ไหนดี? 2024
การรักษาหลุมสิว ต้องอาศัยความอดทนและการดูแลอย่างสม่ำเสมอ จึงจะเห็นผลลัพธ์ที่ดี ดังนั้น ควรเลือกคลินิกรักษาหลุมสิวที่มีความน่าเชื่อถือ มีรีวิวที่เชื่อถือได้และเทคโนโลยีที่ทันสมัย เพื่อให้ได้รับการรักษาอย่างมีประสิทธิภาพและปลอดภัย
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม
ให้แพทย์ออกแบบการรักษาเฉพาะบุคคล คลิก!
คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับ หลุมสิว
หลุมสิวแบบไหนหายได้
การรักษาหลุมสิวให้หายสนิทนั้น ขึ้นอยู่กับความลึกและชนิดของหลุมสิว แต่โดยทั่วไปแล้ว หลุมสิวแบบตื้นๆ เช่น หลุมสิวแบบคลื่น (Rolling Scar) หลุมสิวแบบกล่อง (Boxcar Scar) มักตอบสนองต่อการรักษาได้ดีกว่าหลุมสิวที่ลึกกว่าอย่าง หลุมสิวแบบแท่งน้ำแข็ง (Ice Pick Scar) การรักษาหลุมสิวอาจต้องใช้เวลาและหลายครั้งในการรักษา และอาจไม่สามารถทำให้หลุมสิวหายไปสนิท แต่สามารถช่วยลดเลือนรอยหลุมสิวให้ดูจางลงและผิวเรียบเนียนขึ้นได้
ดูยังไงว่าเป็นหลุมสิว
หลุมสิวคือรอยแผลเป็นที่เกิดจากสิวอักเสบ โดยจะมีลักษณะเป็นหลุมบุ๋มลงไปบนผิวหนัง ทำให้ผิวดูไม่เรียบเนียน มักพบบริเวณใบหน้า แต่ก็อาจเกิดขึ้นบนหน้าอก แผ่นหลัง หรือไหล่ได้เช่นกัน วิธีสังเกตว่าเป็นหลุมสิว มองเห็นเป็นหลุมลึกบนผิว หลุมสิวจะมีลักษณะเป็นหลุมเล็ก ๆ ลึก ๆ บนผิวหนัง บางหลุมอาจแคบและลึก บางหลุมอาจกว้างและตื้น ผิวสัมผัสไม่เรียบเนียน เมื่อลูบผิวบริเวณที่มีหลุมสิว จะรู้สึกขรุขระ ไม่เรียบเนียนเหมือนผิวหนังบริเวณอื่น มีรอยบุ๋มลงไป เมื่อเทียบกับผิวหนังบริเวณใกล้เคียง หลุมสิวจะดูบุ๋มลงไปชัดเจน หากไม่แน่ใจว่าเป็นหลุมสิวหรือไม่ แนะนำให้ปรึกษาแพทย์ผิวหนังเพื่อขอคำวินิจฉัยและรับการรักษาที่เหมาะสม
หลุมสิวหาย 100% ได้ไหม
การรักษารอยหลุมสิวให้หาย 100% นั้น ขึ้นอยู่กับความลึกและความรุนแรงของรอยหลุมสิว โดยทั่วไปแล้ว รอยหลุมสิวขนาดเล็กและตื้น สามารถรักษาให้หายได้เกือบ 100% ด้วยวิธีการต่างๆ เช่น การใช้เลเซอร์ การเติมฟิลเลอร์ แต่สำหรับรอยหลุมสิวขนาดใหญ่และลึก การรักษาให้หายสนิทนั้นยากกว่า ผลลัพธ์ที่ได้อาจไม่สมบูรณ์แบบ 100% แต่สามารถบรรเทาความรุนแรงของรอยหลุมสิวให้ดูดีขึ้นได้มาก ทั้งนี้ แพทย์ผิวหนังจะพิจารณาวิธีการรักษาที่เหมาะสมกับสภาพผิวและความรุนแรงของรอยหลุมสิวของแต่ละบุคคล