Potenza คืออะไร? Potenza ยกกระชับผิวได้ยังไง? ทำความรู้จัก Potenza Laser นวัตกรรมความงามที่สามารถตอบโจทย์สารพัดปัญหาผิวได้ในเครื่องเดียว อัปเดตเทรนด์ความงาม 2024 เคล็ดลับความสวยสไตล์คาร์เดเชียนกับ PEWDEE CLINIC โพเทนซ่า เลเซอร์ ช่วยแก้ปัญหาผิวอะไรได้บ้าง? Potenza หลุมสิว แก้ไขได้ไหม? โพเทนซ่า ราคาเท่าไร Potenza เจ็บไหม? รวมรีวิวจากผู้ใช้บริการจริง Potenza เลเซอร์ รีวิว Potenza Laser ดีไหม? แล้วเหมาะกับใครบ้าง?
Potenza Laser คืออะไร?
Potenza คือ เป็นนวัตกรรมเลเซอร์เข็มทองคำรุ่นใหม่ล่าสุด ผ่านการรับรองจากองค์การอาหารและยาแห่งสหรัฐอเมริกา (US FDA) สามารถรักษาปัญหาผิวพรรณได้หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นการยกกระชับใบหน้า ช่วยกระชับรูขุมขนให้เรียบเนียน ช่วยลดเลือนริ้วรอย และรักษาสิวได้อีกด้วย
ด้วยเทคโนโลยี Fractional RF Microneedle Electrosurgical ประสิทธิภาพสูง กับนวัตกรรม 4 MODE RADIO FREQUENCY MICRONEEDLING มาพร้อมกับคลื่นพลังงาน MONOPOLAR, BIPOLAR, 1 และ 2 Mhz ในเครื่องเดียว ช่วยดูแล ฟื้นฟู และซ่อมแซมผิวไปพร้อม ๆ กันและยังกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและอีสาสติน ทำให้ผิวยกกระชับ ผิวแน่นขึ้น เต่งตึง ผิวสุขภาพดีครอบคลุมถึงชั้นลึกในได้ในเครื่องเดียว
Potenza ช่วยแก้ปัญหาผิวอะไรบ้าง?
เครื่อง Potenza (โพเทนซ่า) ช่วยแก้ปัญหาผิวได้หลากหลาย ตอบโจทย์ผู้ที่ไม่มีเวลาดูแลผิวได้เป็นอย่างดี ไม่ว่าจะเป็น
- ช่วยให้ผิวเฟิร์มกระชับ หมดปัญหาผิวหย่อนคล้อย
- กระชับรูขุมขน ช่วยให้ผิวเรียนเนียนขึ้น
- ลดเลือนริ้วรอยต่าง ๆ ได้อย่างตรงจุด
- ช่วยให้ผิวแข็งแรง และยืดหยุ่นไปพร้อม ๆ กัน
- ช่วยผลักตัวยาบำรุงและวิตามินต่าง ๆ ลงไปใต้ชั้นผิวได้อย่างล้ำลึกในขั้นตอนเดียว
- ฟื้นฟูและซ่อมแซมผิวจากปัญหาสิว รอยดำ-รอยแดง Potenza หลุมสิว ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
- ช่วยให้ผิวดูอ่อนกว่าวัยได้อย่างชัดเจน
อัปเดต Potenza Laser ราคาดีที่สุดกับ PEWDEE CLINIC
อัปเดตโพเทนซ่า ราคาสุดคุ้ม Potenza Laser ราคาพิเศษ เห็นผลลัพธ์การเปลี่ยนแปลงจริง ด้วยบริการจากทีมแพทย์ผู้ชำนาญการ และเครื่อง Potenza (โพเทนซ่า) มาตรฐานระดับ Gold Standard กับ PEWDEE CLINIC มั่นใจปลอดภัย พร้อม Potenza รีวิว จากผู้ใช้บริการจริง นอกจากนี้ ทาง PEWDEE CLINIC ยังมีบริการทรีทเม้นท์ยกกระชับผิว อย่าง Ulthera และ Thermage สำหรับผู้ที่สนใจทำเลเซอร์ขน สามารถอัปเดตแพ็กเกจ พร้อมโปรโมชันพิเศษได้ที่นี่
Potenza Laser ราคาพิเศษสุด เฉพาะเดือนนี้กับ PEWDEE CLINIC !!
6 เรื่องต้องรู้ก่อนทำ Potenza (โพเทนซ่า)
ก่อนตัดสินใจทำ Potenza Laser ต้องรู้ 6 เรื่อง ดังนี้
- สามารถทำได้ทุกสภาพผิว
- ทำได้ทุกสัดส่วนของร่างกาย
- ปล่อยพลังงานแบบเจาะจงครอบคลุมตั้งแต่ผิวชั้นตื้น ไปจนถึงผิวชั้นลึก
- เห็นผลลัพธ์การเปลี่ยนแปลงทันทีหลังการทำ
- ไม่ทำให้เกิดสะเก็ด ไม่ต้องพักฟื้นหลังทำ
- ไม่ต้องทำบ่อย ปีละ 1 ครั้ง
ครบเครื่องเรื่องปัญหาผิว Potenza (โพเทนซ่า) เหมาะกับผิวแบบไหนบ้าง?
Potenza Laser เป็นนวัตกรรมยกกระชับที่สามารถทำได้ทุกสภาพผิว โดยเฉพาะผู้ที่กำลังประสบปัญหาผิวหรือมีความต้องการฟื้นฟูและซ่อมแซมผิวไปพร้อม ๆ กัน โดยโพเทนซ่าสามารถตอบโจทย์ผู้ที่มีปัญหาผิวได้ ดังต่อไปนี้
- ผู้ที่มีปัญหาริ้วรอย ผิวหย่อนคล้อย
- ผู้ที่มีปัญหาผิวแตกลาย หน้าท้องย้วยไม่กระชับ
- ผู้ที่มีปัญหารูขุมขนกว้าง
- รวมถึงผู้ที่มีปัญหาผิวหมองคล้ำเสียจากแสงแดดหรือมลภาวะ
Potenza ยกกระชับผิวด้วยเข็มทองคำ สามารถทำบริเวณไหนได้บ้าง?
Potenza ยกกระชับผิวด้วยเข็มทองคำ เป็นนวัตกรรมที่ได้รับความนิยมเป็นอันดับต้น ๆ ในไทย โดยสามารถทำได้หลายตำแหน่ง ไม่ว่าจะเป็น ผิวหน้า หางตา ลำคอหรือผิวคอ หลังมือ และบริเวณหน้าท้อง โดยมีรายละเอียด ดังต่อไปนี้
Potenza ยกกระชับผิวบริเวณผิวหน้า
การทำโพเทนซ่าบริเวณใบหน้า ช่วยแก้ไขผิวหน้าหย่อนคล้อย ริ้วรอย ปัญหาสิวและหลุมสิว ช่วยให้ใบหน้ากระจ่างใส ดูอ่อนกว่าวัย
Potenza ยกกระชับผิวบริเวณหางตา
ช่วยยกหางคิ้วหรือหางตาขึ้น แก้ปัญหาริ้วรอยรอบดวงตาได้อย่างตรงจุดอีกด้วย
Potenza ยกกระชับผิวบริเวณใต้คางและลำคอ
แก้ปัญหาผิวใต้คางหย่อนคล้อย ลำคอเหี่ยวย่น ช่วยให้ผิวเรียบเนียน กระจ่างใส และเห็นกรอบหน้าชัดเจนในขั้นตอนเดียว
Potenza ยกกระชับผิวบริเวณหลังมือ
นอกจากใบหน้าและลำคอแล้ว ผิวหลังมือเองก็สำคัญไม่แพ้บริเวณอื่น หากผิวหนังบริเวณหลังมือเหี่ยวย่น ทำให้ดูอายุมากกว่าความเป็นจริงได้เช่นกัน การทำโพเทนซ่า ช่วยแก้ไขปัญหามือเหี่ยวย่น ให้กลับมาเต่งตึง
Potenza ยกกระชับผิวบริเวณหน้าท้องและหลัง
นอกจากนี้ ผู้ที่มีปัญหาผิวหน้าท้องหย่อนคล้อย ไม่กระชับ การทำโพเทนซ่า ก็สามารถแก้ไขได้อย่างตรงจุดเช่นกัน ช่วยแก้ไขผิวห้อย หย่อนคล้อย ผิวแตกลายไม่กระชับ ให้กลับมาเฟิร์ม เสริมความมั่นใจให้กับการแต่งตัวได้อีกด้วย
ทำ Potenza Laser มีข้อดีอย่างไร?
การทำ Potenza ยกกระชับผิว มีข้อดีหลายด้าน ไม่ว่าจะเป็น
- ช่วยลดเลือนริ้วรอย และยกกระชับผิว ได้ในขั้นตอนเดียว
- กระตุ้นคอลลาเจนและอีลาสตินใต้ชั้นผิว ช่วยให้ผิวแข็งแรง มีความยืดหยุ่น และเต่งตึงมากขึ้น
- จดปัญหาสิวเรื้อรัง สิวอักเสบ สิวอุดตัน รอยดำ รอยแดง และหลุมสิวได้อย่างมีประสิทธิภาพ
- สามารถทำได้ทุกส่วนของร่างกาย
- สามารถดูแล ฟื้นฟูและซ่อมแซมผิวได้โดยไม่ต้องผ่าตัด ไม่มีรอยช้ำ และไม่มีแผลตกสะเก็ด
- เห็นผลลัพธ์ความเปลี่ยนแปลงที่ดีขึ้นตั้งแต่ครั้งแรกที่ทำ (ผลลัพธ์ขึ้นอยู่กับรายบุคคล)
ก่อนทำ Potenza มีข้อควรระวังอะไรบ้าง?
การทำโพเทนซ่า หากคุณเป็นหนึ่งในเคสดังต่อไปนี้ ไม่ควรทำ Potenza ยกกระชับผิว ได้แก่
- ผู้ที่เคยรักษาด้วยไหมทองคำ
- ผู้ที่ใช้เครื่องกระตุ้นหัวใจ
- ผู้ป่วยที่มีแนวโน้มแผลเป็นคีลอยด์
- ผู้ที่กำลังตั้งครรภ์หรือกำลังให้นมบุตร
ก่อนรับบริการ Potenza Laser ควรเตรียมตัวอย่างไร
ก่อนเข้ารับบริการทำ Potenza เพื่อช่วยให้ผลลัพธ์หลังการรักษามีประสิทธิภาพมากที่สุด และลดความเสี่ยงในการเกิดอาการไม่พึงประสงค์ได้ ควรปฏิบัติตามคำแนะนำดังต่อไปนี้
- งดดื่มแอลกอฮอล์ สูบบุหรี่ อย่างน้อย 24 ชั่วโมง
- งดทานยา วิตามิน และอาหารเสริมที่ต้านการแข็งตัวของเลือด เช่น กลุ่มยา NSAIDs, วิตามินอี, น้ำมันปลา กิงโกะ เป็นต้น
- งดทำทรีทเม้นท์ สปา ซาวน่า สครับผิว หรือเลเซอร์บริเวณที่ต้องการรักษา อย่างน้อย 1 สัปดาห์
- งดใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของเรตินอล AHA BHA
- งดบำรุงผิว ทาครีมกันแดด และแต่งหน้าในวันที่เข้ารับบริการ
- หลีกเลี่ยงการออกแดดโดยตรงและใช้ผลิตภัณฑ์กันแดดอย่างสม่ำเสมอ
โพเทนซ่า เลเซอร์ มีขั้นตอนการรักษาอย่างไรบ้าง
โพเทนซ่า เลเซอร์ จะใช้เวลาในการรักษาประมาณ 90 นาที โดยจะแบ่งขั้นตอนการทำออกเป็น 5 ขั้นตอน โดยมีรายละเอียด ดังต่อไปนี้
- ก่อนจะเริ่มทำ Potenza จะต้องถอดเครื่องประดับและโลหะต่าง ๆ ที่ติดอยู่กับตัวออกก่อนทุกครั้ง
- เจ้าหน้าที่จะเริ่มทำความสะอาดผิวบริเวณที่ต้องการทำ Potenza Laser
- ทายาชาทิ้งไว้ 30 – 40 นาที
- แพทย์ผู้ชำนาญการจะทำการปรับการตั้งค่าเครื่องตามความเหมาะสมและเริ่มดำเนินการรักษา
- เมื่อดำเนินการรักษาเสร็จ แพทย์จะทำการเช็ดทำความสะอาดผิวอีกครั้ง พร้อมให้คำแนะนำการดูแลผิวหลังการทำ Potenza
หลังทำ Potenza Laser ควรดูแลผิวอย่างไร?
การดูแลผิวหลังทำการรักษาถือเป็นสิ่งที่สำคัญมาก ๆ ซึ่งเป็นหนึ่งในตัวแปรที่จะกำหนดได้ว่าผลลัพธ์หลังการรักษาจะอยู่ได้นานแค่ไหน และควรปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์ผู้ชำนาญการอย่างเคร่งครัด โดยมีรายละเอียด ดังต่อไปนี้
- งดสครับผิว หรือเลเซอร์อื่น ๆ บริเวณที่ทำโพเทนซ่า เลเซอร์ อย่างน้อย 2-3 สัปดาห์
- หลีกเลี่ยงการเจอแสงแดดและทาครีมกันแดดสม่ำเสมอ ประมาณ 7-14 วัน
- งดใช้ครีมหรือผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมในการผลัดผิว 1-2 สัปดาห์
- งดดื่มแอลกอฮอล์ และสูบบุหรี่ อย่างน้อย 24 ชั่วโมง
- เลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีความอ่อนโยนในการบำรุงผิว เพื่อเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิว โดยผลิตภัณฑ์นั้น ๆ จะต้องไม่มีส่วนผสมส่วนผสมของน้ำหอม แอลกอฮอล์ภายใน 12 – 24 ชั่วโมง
- งดออกกำลังกายหนัก ซาวน่า หรือกิจกรรมที่ทำให้เสียเหงื่อมากภายใน 24 ชั่วโมง
- ทำความสะอาดผิวด้วยน้ำสะอาด หรือเช็ดด้วยน้ำเกลือ
Potenza VS. Thermage แบบไหนดีกว่ากัน และหัตถการแบบไหนเหมาะกับใคร
Potenza Laser
โพเทนซ่า เป็นนวัตกรรมยกกระชับผิวด้วยเข็มทองคำ โดยใช้เทคโนโลยี RF Microneedling พร้อมคลื่นพลังงาน 4 โหมด ช่วยดูแล ฟื้นฟู และซ่อมแซมผิวได้ถึงผิวชั้นลึก ยกกระชับใบหน้าให้เฟิร์ม ช่วยให้ผิวแข็งแรง เรียบเนียน พลังงานเหมาะสำหรับ
- ผู้ที่มีปัญหาผิวหย่อนคล้อย ไม่กระชับ
- ผู้ที่มีปัญหาสิว รอยดำ-รอยแดง และหลุมสิว
- ผู้ที่มีปัญหาผิวหน้าหมองคล้ำ รูขุมขนกว้าง
Thermage
ส่วน Thermage เป็นนวัตกรรมกระชับผิวเช่นกัน โดยจะใช้พลังงานคลื่นวิทยุความถี่สูง Monopolar RF ช่วยให้ผิวเนียนกระชับ ใช้เวลาในการทำน้อย สามารถยกกระชับผิวได้โดยไม่ต้องผ่าตัด ไม่มีแผล และไม่จำเป็นต้องพักหน้า เหมาะกับ
- ผู้ที่มีเนื้อบนใบหน้าเยอะ แก้มป่อง
- ผู้ที่ต้องการฟื้นฟูผิวเนียนละเอียด กระชับรูขุมขน พร้อมลดเลือนริ้วรอยไปพร้อม ๆ กัน
- ผู้ที่ต้องการแต่งหน้าทุกวัน และไม่สามารถหลบแดดได้
Potenza เลเซอร์ รีวิวกับ PEWDEE CLINIC
ยกกระชับผิวอย่างปลอดภัย มีประสิทธิภาพ เห็นผลลัพธ์การเปลี่ยนแปลงจริง พร้อมให้บริการด้วยทีมแพทย์ผู้ชำนาญการ กับ PEWDEE CLINIC ฟื้นฟูผิวสวย พร้อมซ่อมแซมผิวอย่างตรงจุดในขั้นตอนเดียว ด้วยเครื่อง Potenza Laser และเครื่องมือแพทย์มาตรฐานระดับ Gold Standard ปรึกษาปัญหาผิวฟรี! ได้ที่ LINE
คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับ Potenza
Potenza Laser ต้องทำบ่อยแค่ไหน ถึงจะเห็นผลลัพธ์ชัดเจน?
โดยทั่วใจ หลังการทำโพเทนซ่า จะเห็นผลลัพธ์ตั้งแต่ครั้งแรกที่ทำ และจะค่อย ๆ เห็นผลลัพธ์การเปลี่ยนแปลงอย่างชัดเจนภายใน 4-6 สัปดาห์ โดยผลลัพธ์ในการทำแต่ละครั้งสามารถอยู่ได้นานถึง 6-12 เดือน ขึ้นอยู่กับการดูแลผิวหลังการทำโพเทนซ่า เลเซอร์ด้วย
Potenza ยกกระชับผิวได้จริงไหม?
การทำ Potenza ยกกระชับผิวได้จริง โดยโพเทนซ่า เลเซอร์เป็นการใช้เทคโนโลยีคลื่นวิทยุ RF Microneedling พร้อมคลื่นพลังงาน 4 โหมด ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและอีลาสติน ทำให้ผิวยกกระชับและเรียบเนียนขึ้น และสามารถทำได้ทั้งบริเวณใบหน้า ลำคอ หางตา หลังมือ หน้าท้องและหลัง
ความรู้สึกระหว่างทำ Potenza Laser เป็นยังไง? เจ็บไหม?
ก่อนจะเริ่มการรักษา แพทย์ผู้ชำนาญการจะทำการทายาชาก่อน ดังนั้น ระหว่างการทำโพเทนซ่า จะไม่มีความรู้สึกเจ็บใด ๆ เลย จะมีความรู้สึกอุ่น ๆ เล็กน้อยเท่านั้น
หลังทำโพเทนซ่า ห้ามกินอะไรบ้าง?
ควรงดพวกเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และการสูบบุหรี่ เพราะอาจทำให้ผิวแห้ง ขาดน้ำ และควรงดอาหารหมักดองประมาณ 3 – 5 วัน เพื่อลดความเสี่ยงอาการอักเสบในบริเวณที่ทำโพเทนซ่า
ผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นหลังจากทำ Potenza มีอะไรบ้าง?
หลังการทำโพเทนซ่า ผิวอาจมีรอยแดงบริเวณที่ทำการรักษา โดยอาการนี้จะหายไปเองตามธรรมชาติภายใน 3 – 4 ชั่วโมงหลังทำการรักษา
Potenza VS. Thermage แบบไหนดีกว่ากัน
ทั้ง 2 หัตถการช่วยยกกระชับผิวและกระตุ้นคอลลาเจนใต้ชั้นผิวเช่นเดียวกัน ส่วนคำถามว่า แบบไหนดีกว่ากันนั้น ควรปรึกษากับแพทย์ผู้ชำนาญการ เพื่อทำการตรวจสภาพผิวอย่างละเอียด โดยแพทย์จะให้คำแนะนำ พร้อมออกแบบการรักษาที่เหมาะสมกับปัญหาผิวของคุณมากที่สุด
Potenza Laser VS. Ulthera แตกต่างกันอย่างไร
ถึงแม้ทั้ง 2 หัตถการจะช่วยยกกระชับผิวเหมือนกัน แต่มีความแตกต่างกันตรงเทคโนโลยีที่ใช้ในการรักษา โดย Ulthera จะใช้คลื่นเสียงความถี่สูง (Ultrasound) ในขณะที่ Potenza ใช้คลื่นวิทยุ (RF) กระตุ้นผิวการผลิตคอลลาเจนและอีลาสติน
หลังทำ Potenza สามารถเติมฟิลเลอร์หรือโบท็อกซ์ได้ไหม?
เพื่อประสิทธิภาพในการรักษา หลังทำ Potenza Laser ควรงดฉีดฟิลเลอร์หรือโบท็อกซ์ไปก่อนประมาณ 3 – 5 วัน
Potenza สามารถทำร่วมกับคอร์สรักษาสิวได้ไหม
สามารถทำได้ ไม่ว่าจะเป็น เลเซอร์ Picosure หรือ Discovery Pico เลเซอร์อื่น ๆ ทั้งนี้ เพื่อความปลอดภัย ควรปรึกษาแพทย์ชำนาญการก่อนทำการรักษา
ทำ Ulthera หรือ Thermage แล้ว สามารถทำ Potenza ได้ไหม?
สามารถทำได้ เพราะทั้ง 2 หัตถการเป็นการส่งคลื่นพลังงานเข้าสู่ใต้ชั้นผิว เพื่อไปช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและอีลาสตินเหมือนกัน ในขณะที่ Potenza Laser สามารถผลักตัวยาและวิตามินเข้าสู่ผิวได้ในขั้นตอนเดียว การทำด้วยกันจะยิ่งทำให้เห็นประสิทธิภาพหลังการรักษาชัดเจนมากยิ่งขึ้น ทั้งนี้ สามารถปรึกษาแพทย์ผู้ชำนาญการเพื่อออกแบบการรักษาให้เหมาะกับแต่ละบุคคล