นวัตกรรมใหม่ล่าสุด! ในการสร้างเส้นใยตาข่ายผิวใหม่ ให้ผิวอิ่มฟู ดูเด็ก ดูดีไปอีกนาน นั่นคือ Radiesse หรือเรเดียส โปรแกรมบำรุงผิวพรรณ ที่กระตุ้นการสร้างคอลลาเจนไปถึงใต้ชั้นผิว เห็นผลได้ชัดหลังเติม แล้วเรเดียสดียังไง และ Radiesse เหมาะกับใคร และดีไหม ที่นี่มีคำตอบ
Radiesse คืออะไร?
Radiesse อ่านว่า เรเดียส Radiesse คือสารกระตุ้นคอลลาเจนมีส่วนประกอบหลักเป็น calcium hydroxylapatite (CaHA) ซึ่งมีส่วนช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใต้ชั้นผิว และเพิ่มคอลลาเจน 2 Type ในหนึ่งเดียว ซึ่งเป็นคอลลาเจนที่เราต้องการมากที่สุดและเป็นคอลลาเจนที่พบได้ในผิวเด็ก
และช่วยให้ผิวเรียบเนียน แข็งแรงขึ้น ริ้วรอยดูตื้นขึ้น และยังทำให้ผิวพรรณดูเปล่งปลั่ง ทั้งนี้ในเรเดียส 1 กล่องจะมี 1 ไซริงค์ ซึ่งจะเท่ากับ 1.5 CC
ผลลัพธ์หลังเติมเรเดียสที่เห็นได้ชัดหลังเติม
ผิวแน่นฟู ดูสุขภาพดีขึ้น
ริ้วรอยลดเลือนลง ผิวหน้ากระชับขึ้น
ดูดีขึ้น ดูเด็กลงถึง 2 ปี
Radiesse vs Sculptra ต่างกันยังไง
อีกหนึ่งข้อสงสัยที่หลายคนอยากรู้คำตอบว่า Radiesse และ Sculptra ต่างกันยังไงเลือกใช้แบบไหนดี โดยเราได้แยกความแตกต่างไว้ดังนี้
Radiesse
- มีองค์ประกอบหลักเป็น CaHa ช่วยกระตุ้นผ่านเซลล์ไฟโบรบลาสต์โดยตรง
- รักษาริ้วรอยทั่วแก้ม ร่องแก้ม ร่องน้ำหมาก ร่องคาง หลังมือ
Sculptra
- สารกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน อยู่ในกลุ่ม Collagen Biostimulator กระตุ้นการทำงานให้เซลล์ไฟโบรบลาสต์ ไปกระตุ้นคอลลาเจน
- รักษาบริเวณขมับ แก้มตอบ หน้าแก้ม ทั่วแก้ม กรอบหน้า
สรุปได้ว่าทั้ง Radiesse Vs Sculptra ช่วยตอบโจทย์เรื่องผิวไม่เรียบเนียน ไม่ยืดหยุ่น ผิวไม่เฟิร์ม ริ้วรอย ร่องแก้ม แก้มตอบ ทั้งนี้ยังสามารถใช้ร่วมกับเครื่องมือยกกระชับอื่นๆ ได้ เช่น ทำร่วม Ulthera, Thermage จะช่วยให้การกระชับผิวมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น แต่หากยังไม่แน่ใจว่าเลือกตัวไหนดี แนะนำให้แพทย์ผู้ชำนาญการประเมินและออกแบบการรักษาเพื่อการดูแลผิวอย่างตรงจุด
โปรแกรม Radiesse ราคาสุดคุ้ม!
ที่ ผิวดีคลินิก มีการอัปเดตแพ็กเกจการทำโปรแกรม Radiesse ราคาสุดคุ้มเป็นประจำ ลูกค้าสามารถเลือก แพ็กเกจการทำทรีทเม้นท์ผิวหน้าในราคาที่เหมาะสมกับปัญหาสุขภาพผิวได้เลย! LINE
Radiesse ช่วยอะไรได้บ้าง? และ Radiesse ดีไหม
Radiesse เป็นสารเติมเต็มชนิดหนึ่งที่มีจุดเด่นที่น่าสนใจมากมายดังนี้
- ช่วยเติมเต็มร่องลึกได้หลากหลายระดับ สามารถเติมได้ทั่วใบหน้า และบริเวณมือ
- ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใหม่ขึ้นมาทดแทนคอลลาเจนเดิมที่เสื่อมสภาพไป
- เป็นสารที่มีอยู่ในร่างกายอยู่แล้ว
Radiesse สามารถช่วยในการ:
- เติมเต็มร่องลึก รอยหยักบนใบหน้า เช่น รอยขมวดคิ้ว รอยนกกระจอก รอยย่น
- ยกกระชับผิวให้ดูเต่งตึงขึ้น และเติมเต็มร่องลึกได้หลากหลายระดับ ทั่วใบหน้า และหลังมือ
- ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนทดแทนของเก่าที่เสื่อมสภาพไป
ทั้งนี้ Radiesse ได้รับการรับรองตามมาตรฐานสากล ทำให้มีความปลอดภัยสูง ได้รับการรับรองจากองค์การอาหารและยา ผลลัพธ์อยู่ได้นาน 1-2 ปี หรือมากกว่านั้น ขึ้นอยู่กับสภาพผิวและการดูแลผิวของแต่ละบุคคล
Radiesse filler มีกี่รุ่น
1.Radiesse Classic
รุ่นมาตรฐานที่ใช้สำหรับการเติมเต็มในบริเวณที่ต้องการการยกกระชับและเพิ่มวอลุ่ม เช่น ร่องแก้ม กราม กรอบหน้า และมือ
เหมาะสำหรับการเติมเต็มชั้นลึกใต้ผิว เพื่อแก้ไขริ้วรอยและเพิ่มความกระชับในบริเวณที่สูญเสียความยืดหยุ่นตามอายุ
ผลลัพธ์สามารถอยู่ได้ประมาณ 12-18 เดือน ขึ้นอยู่กับสภาพผิวของแต่ละบุคคล
2.Radiesse (+)
รุ่นนี้ถูกพัฒนาเพิ่มเติมด้วยสารลิโดเคน (Lidocaine) ซึ่งเป็นยาชาเฉพาะที่ในเนื้อเจล ทำให้ช่วยลดความเจ็บปวดขณะฉีด
ผลลัพธ์และการทำงานเหมือนกับ Radiesse Classic โดยเพิ่มความสะดวกสบายให้กับผู้รับการรักษาในระหว่างการฉีด
ฉีดฟิลเลอร์ Radiesse ที่ไหนดี
ควรฉีดฟิลเลอร์ Radiesse ที่คลินิกหรือโรงพยาบาลที่มีแพทย์ผู้ขำนาญการและมีประสบการณ์ด้านการฉีดฟิลเลอร์ และควรตรวจสอบว่าใช้ผลิตภัณฑ์แท้และผ่านการรับรองจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รวมถึงมีการรีวิวที่ดีจากผู้ใช้บริการจริง
หลักการทำงานของ Radiesse filler
Radiesse เป็นฟิลเลอร์ที่มีลักษณะเฉพาะตัว ซึ่งทำงานเพื่อทั้งเติมเต็มและกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนในผิว โดยมีหลักการทำงานที่น่าสนใจดังนี้
- ส่วนประกอบหลัก
Radiesse ประกอบด้วยสาร Calcium Hydroxylapatite (CaHA) ซึ่งเป็นสารประกอบแคลเซียมคล้ายกับที่พบในกระดูกและฟันของมนุษย์ สารนี้ถูกบรรจุในเจลเพื่อช่วยในการฉีดเข้าไปในชั้นผิว - กลไกการทำงาน
Radiesse ทำงานในสองส่วนหลัก
เติมเต็มทันที: เมื่อฉีด Radiesse เข้าไปในผิว สารเจลที่บรรจุ CaHA จะทำหน้าที่เติมเต็มพื้นที่ที่ขาดวอลุ่มหรือมีริ้วรอยทันที เช่น ร่องแก้ม ร่องลึกข้างจมูก และบริเวณกรอบหน้า ทำให้ผิวดูอิ่มขึ้นทันที
กระตุ้นการสร้างคอลลาเจน: สาร CaHA ใน Radiesse มีคุณสมบัติช่วยกระตุ้นให้ผิวสร้างคอลลาเจนใหม่รอบๆ บริเวณที่ฉีด เมื่อเจลเริ่มสลายไป ร่างกายจะใช้เวลาในการสร้างคอลลาเจนใหม่ ส่งผลให้ผิวแข็งแรงและกระชับขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ
- ผลลัพธ์และความยาวนาน
ผลทันที: Radiesse จะให้ผลลัพธ์ที่ชัดเจนทันทีหลังการฉีด เนื่องจากเจลที่บรรจุ CaHA เติมเต็มพื้นที่ใต้ผิว
ผลในระยะยาว: การกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใหม่ทำให้ผลลัพธ์คงอยู่ได้นานกว่าฟิลเลอร์ชนิดอื่นๆ โดยเฉลี่ยจะอยู่ได้นานประมาณ 12-18 เดือน ขึ้นอยู่กับการดูแลผิวและสภาพร่างกายของแต่ละบุคคล
Radiesse เหมาะกับใคร
- ผู้ที่มีอายุ 25 ปีขึ้นไป
- ผู้ที่มีริ้วรอยลึก รอยย่น หรือผิวหย่อนคล้อย กรอบหน้าไม่ชัด
- ผู้ที่ต้องการเติมเต็มส่วนที่ร่องลึก เช่น รอยขมวดคิ้ว
- ผู้ที่มีปัญหาผิวแห้ง ขาดความชุ่มชื้น ผิวหน้าไม่เรียบเนียน
- ผู้ที่มีปัญหาผิวเหี่ยวย่นบริเวณ คอ รวมถึงเนินอกสำหรับผู้หญิง
- ผู้ที่ต้องการอยากมีผิวเด็ก เพิ่มคอลลาเจนให้กับผิว
Radiesse filler ไม่เหมาะกับใคร
Radiesse เป็นฟิลเลอร์ที่เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการการปรับรูปหน้าและลดริ้วรอยอย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ โดยเฉพาะผู้ที่มีปัญหาผิวหน้าไม่เรียบหรือมีความหย่อนคล้อยที่ชัดเจน Radiesse เหมาะสำหรับการเติมเต็มบริเวณที่ต้องการความกระชับ เช่น ขมับ แก้ม หรือแนวกราม นอกจากนี้ยังช่วยกระตุ้นการผลิตคอลลาเจนในผิว ทำให้ผลลัพธ์ดูเป็นธรรมชาติและยาวนาน ผู้ที่ต้องการผลลัพธ์ที่เห็นได้ชัดเจนและยั่งยืนพร้อมการฟื้นฟูผิวที่ค่อยเป็นค่อยไปมักจะเลือกใช้ Radiesse นั่นเอง
Radiesse filler ฉีดจุดไหนได้บ้าง
Radiesse เป็นฟิลเลอร์ที่สามารถฉีดได้ในหลายบริเวณของใบหน้าและร่างกายเพื่อปรับรูปหน้าและลดริ้วรอย แต่ก็มีข้อห้ามในบางจุดเช่นกัน โดยจุดที่สามารถฉีด Radiesse ได้ มีดังนี้
- ขมับ : เติมเต็มพื้นที่ที่เริ่มมีความหย่อนคล้อยหรือร่องลึก
- แก้ม : ปรับรูปทรงและเพิ่มความกระชับ
- แนวกราม : ช่วยให้กรอบหน้าเรียบและชัดเจน
- ร่องแก้ม : ลดร่องลึกและริ้วรอยบริเวณรอบปาก
- คาง : เติมเต็มคางให้มีความกระชับและได้รูป
จุดที่ห้ามฉีด Radiesse
บริเวณที่มีความเสี่ยงสูง เช่น ใต้ตา หรือบริเวณที่มีความบางของผิวมาก
บริเวณที่มีการอักเสบหรือบาดเจ็บ เช่น สิว หรือแผล
บริเวณที่มีเส้นเลือดใหญ่ เพื่อป้องกันการเกิดภาวะแทรกซ้อน
3 บริเวณที่มีการติดเชื้อ เช่น บริเวณที่เป็นแผลหรือมีการติดเชื้อ
ตำแหน่งที่ห้ามทำโปรแกรม Radiesse
การทำ Radiesse ไม่แนะนำให้เติมบริเวณริมฝีปาก และรอบดวงตา เนื่องจากบริเวณดังกล่าว มีความบอบบาง ทั้งนี้บริเวณผิวหนังที่มีความอักเสบ บริเวณที่ผิวติดเชื้อ เป็นแผล หรือเป็นสิว ก็ควรหลีกเลี่ยงเช่นกัน ทุกครั้งก่อนการรักษาที่ผิวดีคลินิกจะมีแพทย์ผู้ชำนาญการแนะนำและออกแบบการรักษาเพื่อความปลอดภัยของคนไข้
Radiesse กี่วันเห็นผล
ผลลัพธ์ของการเติม Radiesse จะเห็นได้ทันทีหลังทำการรักษา เนื่องจากส่วนประกอบของ calcium hydroxylapatite จะเติมเต็มพื้นที่ที่ต้องการให้สมบูรณ์ขึ้นอย่างชัดเจน
ผลลัพธ์สุดท้ายนั้นจะดีขึ้นเรื่อยๆ ในช่วง 3-4 สัปดาห์ หลังจากนั้นผลจะคงอยู่ได้นาน 1-2 ปี ขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคล และจะเริ่มสลายตัวตามธรรมชาติ ผลลัพธ์ที่ได้จะค่อย ๆ ลดลงไป ผู้ที่ต้องการคงผลลัพธ์ให้คงอยู่ เมื่อใกล้ถึงเวลาสามารถกลับมาเติมซ้ำได้เลย
การดูแลหลังฉีดฟิลเลอร์ Radiesse
หลังจากฉีดฟิลเลอร์ Radiesse แล้ว ควรหลีกเลี่ยงการนวดบริเวณที่ฉีด และเลี่ยงการแต่งหน้าในช่วง 12 ชั่วโมงแรก รวมไปถึงการออกกำลังกายหนัก การสัมผัสความร้อนสูง เช่น ซาวน่า หรือการดื่มแอลกอฮอล์ เพื่อให้รอยเข็มปิดสนิทและลดอาการบวมช้ำ
นอกจากนี้ควรประคบเย็นบริเวณที่ฉีดและดื่มน้ำเปล่ามากๆ หากมีอาการผิดปกติ เช่น ปวดมาก บวมมาก หรือมีรอยช้ำขนาดใหญ่ ควรปรึกษาแพทย์ทันที การดูแลตัวเองอย่างถูกวิธีจะช่วยให้ผลลัพธ์การรักษาออกมาดีที่สุดและลดความเสี่ยงของการเกิดผลข้างเคียง
Radiesse อันตรายไหม ? มีผลข้างเคียงไหม ?
Radiesse จากผิวดีคลินิกมีความปลอดภัยสูง เพราะได้รับรองและอนุมัติจากองค์การอาหารและยาของสหรัฐอเมริกา (US FDA) ทั้งนี้ยังดำเนินการรักษาโดยแพทย์ผู้ชำนาญการโดยตรงที่มีประสบการณ์การรักษาคนไข้ด้วยเรเดียส
Radiesse filler ราคาเท่าไหร่
Radiesse เป็นฟิลเลอร์ที่ได้รับความนิยมในการปรับรูปหน้าและลดริ้วรอย เนื่องจากมีคุณสมบัติในการเติมเต็มและกระตุ้นการผลิตคอลลาเจนในผิว ซึ่งทำให้ผลลัพธ์มีความเป็นธรรมชาติและยั่งยืน อย่างไรก็ตาม ก่อนที่คุณจะตัดสินใจทำการรักษาด้วย Radiesse ควรทราบข้อมูลเกี่ยวกับราคา ความปลอดภัย และผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้น
ซึ่งราคา Radiesse มีความหลากหลายขึ้นอยู่กับคลินิกและบริเวณที่ทำการฉีด โดยทั่วไป ราคาจะเริ่มต้นที่ประมาณ 15,000 – 30,000 บาทต่อการฉีดหนึ่งครั้ง การเลือกคลินิกที่มีชื่อเสียงและแพทย์ผู้ชำนาญการจะช่วยให้คุณได้รับข้อมูลที่แม่นยำเกี่ยวกับราคาและบริการ
ในด้าน ความปลอดภัย การทำ Radiesse ถือเป็นฟิลเลอร์ที่ปลอดภัยเมื่อใช้โดยแพทย์ผู้ชำนาญการ แต่การใช้ฟิลเลอร์ประเภทนี้มีความเสี่ยงเช่นเดียวกับการรักษาอื่น ๆ เพราะอาจเกิดภาวะแทรกซ้อนหรือปัญหาต่าง ๆ ได้ เช่น การติดเชื้อ หรือปฏิกิริยาที่ไม่พึงประสงค์กับสารที่ใช้
และในส่วนของผลข้างเคียง Radiesse อาจทำให้ผิวแดงที่บริเวณที่ฉีด ซึ่งมักจะหายไปภายในไม่กี่วัน นอกจากนี้ยังอาจเกิดการเกิดก้อนใต้ผิวหนังได้ แม้จะไม่พบได้บ่อย การนวดบริเวณที่ฉีดอาจช่วยลดโอกาสการเกิดก้อนใต้ผิวหนัง
เปรียบเทียบ ฟิลเลอร์ Radiesse กับหัตถการงานผิวอื่น
การทำ Radiesse แตกต่างจากการทำหัตถการงานผิวอื่น ๆ โดยเน้นที่วิธีการและผลลัพธ์ที่ได้รับ ดังนี้
- ประเภทของผลิตภัณฑ์ : อย่างที่ทราบกันว่าเจ้า Radiesse เป็นฟิลเลอร์ที่ประกอบด้วยแคลเซียมไฮดรอกซิลาแพตไตท์ ซึ่งทำหน้าที่เติมเต็มและกระตุ้นการผลิตคอลลาเจนในผิว ขณะที่ฟิลเลอร์อื่น ๆ เช่น Hyaluronic Acid (HA) มักจะทำงานโดยการเพิ่มความชุ่มชื้นและเติมเต็มทันที แต่ไม่เน้นการกระตุ้นการผลิตคอลลาเจนในระยะยาว
- กลไกการทำงาน : Radiesse ไม่เพียงเติมเต็มบริเวณที่ฉีด แต่ยังช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใหม่ในผิว ซึ่งทำให้ผลลัพธ์ที่ได้มีความยั่งยืนและดูเป็นธรรมชาติขึ้น ขณะที่หัตถการอื่น ๆ เช่น Botox ทำงานโดยการลดการเคลื่อนไหวของกล้ามเนื้อเพื่อป้องกันการเกิดริ้วรอย
- ระยะเวลาและความยั่งยืนของผลลัพธ์ : โดยผลลัพธ์จาก Radiesse มักจะคงอยู่ได้นานกว่า 12-18 เดือน จากการกระตุ้นการผลิตคอลลาเจนใหม่ ขณะที่ฟิลเลอร์ประเภท HA อาจต้องการการฉีดซ้ำทุก 6-12 เดือนเพื่อรักษาผลลัพธ์
4 Radiesse เหมาะสำหรับการเติมเต็มพื้นที่ที่มีความหย่อนคล้อยหรือร่องลึก เช่น ขมับ แก้ม และแนวกราม ในขณะที่ฟิลเลอร์ HA สามารถใช้ในการเติมเต็มบริเวณต่าง ๆ เช่น ร่องแก้ม ริมฝีปาก และบริเวณใต้ตา เป็นต้น
ฉีดฟิลเลอร์ Radiesse อยู่ได้นานไหม
ผลลัพธ์ของ Radiesse อยู่ได้นานประมาณ 1-2 ปี แต่ขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายอย่าง เช่น อายุของผู้ฉีด การดูแลผิว และตำแหน่งที่ฉีด
Radiesse filler 1 กล่อง มีกี่ CC
Radiesse filler 1 กล่อง มีปริมาณ 1.5 cc
ขั้นตอนก่อน-หลังการทำ Radiesse
ก่อนทำ Radiesse
- ปรึกษาแพทย์และให้แพทย์ประเมินสุขภาพผิว และตรวจสอบว่าคนไข้แพ้อะไรบ้าง
- หลีกเลี่ยงยา และวิตามินบางชนิด เช่น แอสไพรินหรือยาต้านการแข็งตัวของเลือด
- งดการดื่มแอลกอฮอล์ อย่างน้อย 24 ชั่วโมงก่อนการเติม
หลังทำ Radiesse
- หลีกเลี่ยงการแตะ กด นวดบริเวณที่เติม เพื่อไม่ให้สารเคลื่อนตัวและเซ็ตตัวได้ดีขึ้น
- งดแต่งหน้า 12 ชั่วโมง เพื่อรอให้รอยเข็มหายก่อน
- งดออกแดดหรือความร้อนสูง อย่างน้อย 2 สัปดาห์ เพื่อไม่ให้ความร้อนทำลายคอลลาเจนใต้ชั้นผิว
- หลีกเลี่ยงเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และการสูบบุหรี่อย่างน้อย 2 สัปดาห์
ทั้งนี้ทำกับผิวดีคลินิก จะมีเจ้าหน้าที่คอยติดตามและสอบถามอาการหลังทำ เพื่อให้คนไข้ทุกคนสบายใจหลังมาใช้บริการ
กระชับผิวให้สวยปัง ด้วยเครื่องมือมาตรฐานระดับ Gold Standard ปรึกษาปัญหาผิวฟรี! ได้ที่ LINE
คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับ Radiesse
Radiesse คืออะไร และทำมาจากอะไร?
Radiesse เป็นผลิตภัณฑ์ฟิลเลอร์ที่ใช้สำหรับการเติมเต็มร่องลึกและยกกระชับผิวหน้า
ส่วนประกอบหลักของ Radiesse คือ calcium hydroxylapatite (CaHA) ซึ่งเป็นสารประกอบธรรมชาติที่มีโครงสร้างคล้ายกับไฮดรอกซีอะพาไทต์ในกระดูกและฟันของมนุษย์ ข้อดีคือสลายได้เองสามารถเติมซ้ำได้
Radiesse สามารถเติมได้ที่ส่วนไหนบ้าง?
การทำเรเดียสสามารถเติมรักษาบริเวณร่องแก้ม ร่องน้ำหมาก หน้าแก้ม กรอบหน้า ขมับ ร่องคาง หลังมือ เพื่อเติมเต็มร่องลึกและริ้วรอยให้ผิวเรียบเนียนมากยิ่งขึ้น
ผลของ Radiesse คงอยู่ได้นานเท่าไร?
ผลลัพธ์ของการฉีด Radiesse จะเห็นได้ทันทีหลังทำการรักษา และผลลัพธ์สุดท้ายนั้นจะดีขึ้นเรื่อยๆ ในช่วง 3-4 สัปดาห์ หลังจากนั้นผลจะคงอยู่ได้นาน 1-2 ปี ขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคล
ข้อควรระวังอะไรบ้างก่อนเติม Radiesse?
ก่อนทำเรเดียสหลีกเลี่ยงยา และวิตามินบางชนิด เช่น แอสไพรินหรือยาต้านการแข็งตัวของเลือด และงดการดื่มแอลกอฮอล์ อย่างน้อย 24 ชั่วโมงก่อนการเติม
Radiesse แตกต่างจากฟิลเลอร์ชนิดอื่นอย่างไร?
จุดแตกต่างหลักๆ ของ Radiesse จะมีกลไกการทำงานเหมือนฟิลเลอร์ทั่วไปในแง่ของการเติมเต็มร่องลึก แต่ Radiesse นอกจากจะเติมเต็มแล้ว ยังกระตุ้นให้ร่างกายสร้างเนื้อเยื่อใหม่เพิ่มเติมจากคุณสมบัติของ CaHA ทำให้ผลลัพธ์คงทนยาวนาน
ใครบ้างที่ไม่ควรเติม Radiesse?
การทำ Radiesse ไม่เหมาะกับผู้ที่มีผิวหนังอักเสบอยู่ หรือผู้ที่ตั้งครรภ์และกำลังให้นมลูก ทั้งนี้ก่อนทำ Radiesse ทุกครั้งที่ผิวดีคลินิก จะมีการนัดประเมินสภาพผิวกับแพทย์ผู้ชำนาญการเพื่อซักถามประวัติและออกแบบการรักษาให้ปลอดภัยและมีประสิทธิภาพมากที่สุด
หลังเติม Radiesse แล้ว ควรปฏิบัติตัวอย่างไร?
แนะนำดื่มน้ำเยอะๆ เพื่อกระตุ้นการผลิตคอลลาเจนได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ หลีกเลี่ยงการแตะ กด นวดบริเวณที่เติม เพื่อไม่ให้สารเคลื่อนตัวและเซ็ตตัวได้ดีขึ้น และทาครีมกันแดดเป็นประจำ
Radiesse ผลิตจากประเทศอะไร
ประวัติของ Radiesse พัฒนาขึ้นโดยบริษัท Merz Pharmaceuticals มีงานวิจัยรองรับมากกว่า 245 ฉบับ มีการขายมากกว่า 85 ประเทศทั่วโลก
ทำ Radiesse ไปแล้ว นานเท่าไรจึงต้องเติมซ้ำ ?
หากต้องการให้การทำ Radiesse มีประสิทธิภาพแนะนำให้ต่อเนื่อง 1-3 ครั้งขึ้นไป ในแต่ละครั้งห่างกัน 1 เดือน ทั้งนี้ปรึกษาแพทย์ผู้ชำนาญการเพื่อประเมินแผนการรักษา
Radiesse ดีไหม ? มีหัตถการงานผิวอะไรอีกบ้างที่คล้ายกัน
นอกจาก Radiesse แล้วยังมี Sculptra เป็นอีกนวัตกรรมหัตถการงานผิวที่น่าสนใจซึ่งทั้งสองต่างให้ผลลัพธ์ที่คล้ายคลึงกันนั่นคือการปรับผิวให้เรียบเนียน ช่วยกระตุ้นคอลลาเจน และได้การรับรองจาก US FDA ทั้งคู่