การฉีดฟิลเลอร์เป็นหนึ่งในวิธีการเสริมความงามที่ได้รับความนิยมมากที่สุด เนื่องจากช่วยเติมเต็มริ้วรอยและร่องลึกต่างๆ บนใบหน้าหรือปรับปลายจมูกให้เรียว เสริมโหนกแก้มให้ดูมีมิติขึ้น ซึ่งในปัจจุบันมีฟิลเลอร์ยี่ห้อมากมายให้เลือก อาจทำให้หลายคนเกิดความสับสนหรือไม่รู้จะเลือกฟิลเลอร์ ยี่ห้อไหนดี ในบทความนี้ได้รวบรวมวิธีการเลือกฟิลเลอร์และยี่ห้อฟิลเลอร์ที่นิยมในไทยมาให้ทุกคน
มือใหม่เลือกฟิลเลอร์อย่างไรดี
การเลือกว่าฟิลเลอร์ ยี่ห้อไหนดีที่สุดนั้น ไม่มีคำตอบที่ตายตัว เพราะการเลือกฟิลเลอร์ที่ดีนั้น ขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย ดังนี้
1. ปัญหาที่ต้องการแก้ไข
- ต้องการเติมเต็มริ้วรอยร่องลึก เช่น ร่องแก้ม รอยใต้ตา
- ต้องการเพิ่ม volume ให้กับใบหน้า เช่น แก้มตอบ ขมับตอบ
- ต้องการปรับรูปหน้า เช่น เสริมจมูก เสริมคาง
- ต้องการเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิว
2. ตำแหน่งที่ต้องการฉีด
- ฟิลเลอร์แต่ละชนิดมีความเหมาะสมกับตำแหน่งที่ฉีดแตกต่างกันไป
- แพทย์ผู้ชำนาญการจะสามารถประเมินและแนะนำฟิลเลอร์ที่เหมาะสมกับแต่ละจุดได้
3. ลักษณะผิว
- ผิวบาง ควรเลือกฟิลเลอร์เนื้อละเอียด
- ผิวหนา ควรเลือกฟิลเลอร์เนื้อแน่น
4. งบประมาณ
- ฟิลเลอร์แต่ละชนิดมีราคาแตกต่างกันไป
- ควรปรึกษาแพทย์เพื่อหาฟิลเลอร์ที่เหมาะสมกับความต้องการและงบประมาณ
5. ยี่ห้อและรุ่นของฟิลเลอร์
- ควรเลือกฟิลเลอร์ที่ผ่านการรับรองจากองค์การอาหารและยา (อย.)
- มีความปลอดภัยและได้ผลลัพธ์ที่ดี
ความแตกต่างของฟิลเลอร์แท้แต่ละยี่ห้อ
วิธีดูฟิลเลอร์แท้ แต่ละยี่ห้อ ดังนี้
Restylane
- กล่องมีสติกเกอร์ Restylane GALDERMA โมโนแกรม ติดอยู่
- มีภาษาไทยกำกับข้างกล่อง และมีฉลากภาษาไทยด้านในกล่อง
- มีเลข Lot ที่ตรงกัน 2 จุด คือ บนกล่อง และที่หลอดฟิลเลอร์
- สามารถโทรเช็คเลข Lot กับบริษัท Galderma Thailand (DSKH) เบอร์ 02-023-1800 ต่อ 402
Juvederm
- กล่องมีสติกเกอร์ Juvederm ติดอยู่
- มีภาษาไทยกำกับข้างกล่อง และมีฉลากภาษาไทยด้านในกล่อง
- มีเลข Lot ที่ตรงกัน 4 จุด คือ เลข Lot ที่สติกเกอร์ เลข Lot ที่กล่อง เลข Lot ที่ซอง เลข Lot ที่หลอด
- สามารถโทรเช็คเลข Lot กับบริษัท Allergan Thailand (DSKH) เบอร์ 02 640 4999 ต่อ 1
Belotero
- กล่องมีสติกเกอร์ Belotero ติดอยู่
- มีภาษาไทยกำกับข้างกล่อง และมีฉลากภาษาไทยด้านในกล่อง
- มีเลข Lot ที่ตรงกัน 3 จุด คือ เลข Lot ที่กล่อง เลข Lot ที่สติกเกอร์ เลข Lot ที่หลอด
- สามารถโทรเช็คเลข Lot กับบริษัท Merz Aesthetics Thailand เบอร์ 02 229 9696
Neuramis
- กล่องมีสติกเกอร์ Neuramis ติดอยู่
- มีภาษาไทยกำกับข้างกล่อง และมีฉลากภาษาไทยด้านในกล่อง
- มีเลข Lot ที่ตรงกัน 3 จุด คือ เลข Lot ที่กล่อง เลข Lot ที่สติกเกอร์ เลข Lot ที่หลอด
- บางรุ่นมี QR Code ให้สแกนเพื่อตรวจสอบฟิลเลอร์ ข้อมูลบน QR Code ต้องตรงกับข้อมูลบนกล่อง
ฟิลเลอร์ ยี่ห้อไหนดีปี 2567
ฟิลเลอร์ที่นิยมในไทยปี 2567 ยังคงเป็นไฮยาลูรอนิกแอซิด (Hyaluronic Acid) แต่มีการพัฒนาสูตรและเทคโนโลยีใหม่ๆ ออกมาอย่างต่อเนื่อง ดังนี้
ฟิลเลอร์ยี่ห้อ Restylane
ฟิลเลอร์ Restylane เป็นฟิลเลอร์ชนิดไฮยาลูรอนิก แอซิด (Hyaluronic Acid) แบรนด์แรกของโลก ผลิตโดยบริษัท Galderma ประเทศสวีเดน
จุดเด่นของ Restylane
- ความปลอดภัย: ได้รับการรับรองจากองค์การอาหารและยา (FDA) ทั้งในประเทศไทยและสหรัฐอเมริกา รวมถึงมาตรฐานยุโรป (EDQM)
- ประสบการณ์ยาวนาน: ผลิตและพัฒนามากว่า 20 ปี
- เห็นผลเป็นธรรมชาติ: เนื้อเจลมีโมเลกุลขนาดเล็ก กลมกลืนไปกับผิว
- หลากหลายรุ่น: เหมาะกับการแก้ไขปัญหาเฉพาะจุดบนใบหน้า
- สลายตัวตามธรรมชาติ: ภายใน 6-18 เดือน ขึ้นอยู่กับรุ่นที่ใช้
รุ่นของ Restylane
- Restylane Vital: เหมาะกับเติมเต็มริ้วรอยตื้น ร่องแก้ม ใต้ตา
- Restylane Refyne: เหมาะกับเติมเต็มร่องลึก รอยยิ้ม ร่องน้ำหมาก
- Restylane Lyft: เหมาะกับเติมเต็มโหนกแก้ม
- Restylane Volyme: เหมาะกับเติมเต็มเนื้อแก้ม ปรับรูปหน้า
- Restylane SubQ: เหมาะกับเติมเต็มเนื้อใต้ผิวหนัง กระชับใบหน้า
- Restylane Defyne: เหมาะกับเติมเต็มริ้วรอยร่องลึก บนใบหน้าที่มีผิวบาง
- Restylane Kiss: เหมาะกับเติมเต็มริมฝีปาก เพิ่มความอวบอิ่ม
- Restylane Contour: เหมาะกับปรับรูปหน้า คาง
ฟิลเลอร์ยี่ห้อ Juvederm
ฟิลเลอร์ Juvederm เป็นฟิลเลอร์ชนิดไฮยาลูรอนิก แอซิด (Hyaluronic Acid) เช่นเดียวกับ Restylane แต่ผลิตโดยบริษัท Allergan ประเทศอเมริกา ได้รับความนิยมอย่างแพร่หลายทั่วโลก
จุดเด่นของ Juvederm
- ความปลอดภัย: ได้รับการรับรองจากองค์การอาหารและยา (FDA) ทั้งในประเทศไทยและสหรัฐอเมริกา
- เทคโนโลยี Vycross: ช่วยให้เนื้อฟิลเลอร์กลมกลืนไปกับผิว ผลลัพธ์ดูเป็นธรรมชาติ
- เห็นผลยาวนาน: ขึ้นอยู่กับรุ่นที่ใช้ โดยเฉลี่ยอยู่ได้ 6-24 เดือน
- หลากหลายรุ่น: เหมาะกับการแก้ไขปัญหาเฉพาะจุดบนใบหน้า
- ลดรอยช้ำ: มีส่วนผสมของยาชา ช่วยลดอาการเจ็บปวดและรอยช้ำหลังฉีด
รุ่นของ Juvederm
- Juvederm Ultra Plus: เหมาะกับเติมเต็มริ้วรอยปานกลาง ร่องแก้ม ใต้ตา
- Juvederm Volbella: เหมาะกับเติมเต็มริมฝีปาก เพิ่มความอวบอิ่ม
- Juvederm Voluma: เหมาะกับเติมเต็มโหนกแก้ม ปรับรูปหน้า
- Juvederm Volift: เหมาะกับเติมเต็มร่องลึก ยกกระชับใบหน้า
- Juvederm Volux: เหมาะกับเติมเต็มเนื้อแก้ม ปรับรูปหน้า
- Juvederm Refyne: เหมาะกับเติมเต็มริ้วรอยลึก รอยยิ้ม
- Juvederm Defyne: เหมาะกับเติมเต็มริ้วรอยร่องลึก บนใบหน้าที่มีผิวบาง
ฟิลเลอร์ยี่ห้อ Belotero
ฟิลเลอร์ Belotero เป็นฟิลเลอร์ชนิดไฮยาลูรอนิก แอซิด (Hyaluronic Acid) ผลิตโดยบริษัท Merz Aesthetics ประเทศสวิสเซอร์แลนด์ ได้รับความนิยมอย่างมากในหมู่แพทย์และคนไข้
จุดเด่นของ Belotero
- ความปลอดภัย: ได้รับการรับรองจากองค์การอาหารและยา (FDA) ทั้งในประเทศไทยและสหรัฐอเมริกา รวมถึงมาตรฐานยุโรป (CE)
- เทคโนโลยี Cohesive Progressive Gel: ช่วยให้เนื้อฟิลเลอร์กลมกลืนไปกับผิว ผลลัพธ์ดูเป็นธรรมชาติ
- เห็นผลยาวนาน: ขึ้นอยู่กับรุ่นที่ใช้ โดยเฉลี่ยอยู่ได้ 6-18 เดือน
- หลากหลายรุ่น: เหมาะกับการแก้ไขปัญหาเฉพาะจุดบนใบหน้า
- ลดรอยช้ำ: บางรุ่นมีส่วนผสมของยาชา ช่วยลดอาการเจ็บปวดและรอยช้ำหลังฉีด
รุ่นของ Belotero
- Belotero Soft: เหมาะกับเติมเต็มริ้วรอยตื้น ใต้ตา
- Belotero Balance: เหมาะกับเติมเต็มริ้วรอยปานกลาง ร่องแก้ม
- Belotero Intense: เหมาะกับเติมเต็มร่องลึก โหนกแก้ม
- Belotero Volume: เหมาะกับเติมเต็มเนื้อแก้ม ปรับรูปหน้า
- Belotero Revive: เหมาะกับฟื้นฟูผิว เพิ่มความชุ่มชื้น
- Belotero Contour: เหมาะกับปรับรูปหน้า คาง
ฟิลเลอร์ยี่ห้อ Neuramis
ฟิลเลอร์ Neuramis เป็นฟิลเลอร์ที่ผลิตโดยบริษัท Medytox ประเทศเกาหลีใต้ ได้รับความนิยมในประเทศไทยและหลายๆ ประเทศ
จุดเด่นของ Neuramis
- ความปลอดภัย: ได้รับการรับรองจากองค์การอาหารและยา (อย.) ของประเทศไทย
- ราคาไม่แพง: เมื่อเทียบกับฟิลเลอร์แบรนด์อื่นๆ ที่ผ่าน อย. ไทย
- เห็นผลเป็นธรรมชาติ: เนื้อเจลมีโมเลกุลขนาดเล็ก กลมกลืนไปกับผิว
- หลากหลายรุ่น: เหมาะกับการแก้ไขปัญหาเฉพาะจุดบนใบหน้า
- สลายตัวตามธรรมชาติ: ภายใน 6-18 เดือน ขึ้นอยู่กับรุ่นที่ใช้
รุ่นของ Neuramis
- Neuramis Deep: เหมาะกับเติมเต็มริ้วรอยปานกลาง ร่องแก้ม
- Neuramis Deep Lidocaine: เหมาะกับเติมเต็มริ้วรอยปานกลาง ร่องแก้ม มีส่วนผสมของยาชา ช่วยลดอาการเจ็บปวด
- Neuramis Volume Lidocaine: เหมาะกับเติมเต็มเนื้อแก้ม ปรับรูปหน้า มีส่วนผสมของยาชา ช่วยลดอาการเจ็บปวด
ไม่ว่าคุณจะฉีดฟิลเลอร์ยี่ห้อไหน การดูแลผิวหลังฉีดฟิลเลอร์อย่างถูกวิธี ยังคงเป็นเรื่องสำคัญ การปฏิบัติตัวที่ถูกต้องจะช่วยให้ผลลัพธ์จากการฉีดฟิลเลอร์ออกมาดูเป็นธรรมชาติ คงอยู่ได้นาน รวมถึงการเลือกคลินิกที่เชื่อถือได้และใช้ฟิลเลอร์แท้ จะช่วยให้คุณสวยงามได้อย่างปลอดภัย อย่างที่ ผิวดีคลินิก
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมให้แพทย์ออกแบบการรักษาเฉพาะบุคคล คลิก!
รีวิวฉีดฟิเลอร์ที่ ผิวดีคลินิก
คำถามที่พบบ่อย เกี่ยวกับ ฟิลเลอร์ ยี่ห้อไหนดี
ฟิลเลอร์ยี่ห้อไหนอยู่ได้นาน
– Restylane สลายตัวตามธรรมชาติ ภายใน 6-18 เดือน ขึ้นอยู่กับรุ่นที่ใช้
– Juvederm เห็นผลยาวนาน: ขึ้นอยู่กับรุ่นที่ใช้ โดยเฉลี่ยอยู่ได้ 6-24 เดือน
– Belotero เห็นผลยาวนาน: ขึ้นอยู่กับรุ่นที่ใช้ โดยเฉลี่ยอยู่ได้ 6-18 เดือน
– ฟิลเลอร์ Neuramis สลายตัวตามธรรมชาติ ภายใน 6-18 เดือน ขึ้นอยู่กับรุ่นที่ใช้
ฟิลเลอร์ของประเทศไหนดีที่สุด
จริงๆแล้ว ฟิลเลอร์ที่ดีที่สุด ไม่ได้ขึ้นอยู่กับประเทศที่ผลิต แต่ขึ้นอยู่กับชนิดฟิลเลอร์ แต่ละชนิดมีเนื้อสัมผัส คุณสมบัติ และผลลัพธ์ที่แตกต่างกันไป แพทย์จะเลือกชนิดของฟิลเลอร์ให้เหมาะสมกับความต้องการและปัญหาของแต่ละบุคคล
ฟิลเลอร์ EPTQ กับ Neuramis ต่างกันยังไง
ฟิลเลอร์ EPTQ และ Neuramis ต่างเป็นฟิลเลอร์จากเกาหลีใต้ แต่มีความแตกต่างที่
1.เทคโนโลยีการผลิต EPTQ ใช้เทคโนโลยี ZEEP (Zero Endotoxin & BDDE Entire Process) Neuramis ใช้เทคโนโลยี HEMA Cross-linking Technology
2.EPTQ เนื้อฟิลเลอร์มีความนุ่ม ละมุน Neuramis เนื้อฟิลเลอร์มีความหนาแน่นกว่า
3. ระยะเวลา: EPTQ อยู่ได้ประมาณ 6-12 เดือน Neuramis อยู่ได้ประมาณ 12-24 เดือน
ฟิลเลอร์ขมับ ควรใช้ตัวไหน
ฟิลเลอร์ขมับที่นิยมใช้ เช่น
1. Juvederm Voluma: ฟิลเลอร์เนื้อแข็ง เหมาะกับการเติมเต็มขมับ ยกกระชับหางตา ปรับรูปหน้า อยู่ได้นาน 12-24 เดือน
2. Restylane Lyft: ฟิลเลอร์เนื้อนิ่ม เหมาะกับการเติมเต็มขมับที่ยุบ ต้องการเติมเต็มเพื่อความอวบอิ่ม อยู่ได้นาน 6-12 เดือน
3. Belotero Intense: ฟิลเลอร์เนื้อแข็ง เหมาะกับการเติมเต็มขมับ ยกกระชับหางตา ปรับรูปหน้า อยู่ได้นาน 12-18 เดือน