Fraxel Laser
ได้ชื่อว่าเป็นอีกหนึ่งเทคโนโลยีพลิกฟื้นผิว Fraxel ซึ่งเป็น Fractional Laser ที่ได้รับการรับรองจากองค์การอาหารและยาแห่งสหรัฐอเมริกา (US FDA) ได้ผลดียิ่งกว่า Fraxel 750 (รุ่นเก่า) ที่หลังการรักษาผิวหน้าอาจจะคล้ำอยู่สักระยะ
ในขณะที่ Fraxel Laser Restore1550 นั้นหมดปัญหาแบบเดิมๆ ปลอดภัย และเสริมประสิทธิภาพในการรักษาได้อย่างน่าทึ่ง โดยจะเข้าไปพลิกฟื้นในทุกอณูผิว โดยซ่อมแซมทีละจุดเล็ก ๆ เฉกเช่นการแต่งภาพด้วยคอมพิวเตอร์ (Pixel by Pixel, Spot by Spot) หลังทำจึงไม่เกิดรอยแผลเป็น และเมื่อรักษาอย่างต่อเนื่อง เดือนละครั้ง แต่ละครั้ง Fraxel จะผลัดผิวเก่าและสร้างผิวใหม่มาแทน 15-20% พอทำได้ 3-5 ครั้ง ผิวหน้าที่ขรุขระก็จะกลับมาเรียบเนียนขึ้น สดใสและอ่อนวัยกว่าเดิม
จุดเด่นของ Fraxel Laser
- แผลเป็นสิว และหลุมสิว (Acne Scar)
- แผลเป็นนูน (Keloid)
- รูขุมขนกว้าง (Pores)
- ริ้วรอยแห่งวัย (Wrinkle),ริ้วรอยใต้ตา
- รอยแตกลาย (Striae) ซึ่งพบได้ทั้งในวัยรุ่นและหญิงหลังคลอด บริเวณหน้าท้อง น่อง สะโพก และต้นขา
- ปรับผิวให้เรียบเนียนใส ละเอียด
- ฝ้าจะดีขึ้นจากการรักษาด้วย Fraxel Restore แต่ไม่นานมักจะกลับมาดำใหม่และบางรายดำกว่าเดิม
Dr. Rox Anderson เป็นผู้ค้นพบ Fraxel Laser ซึ่งมีหลายรุ่นทั้ง Fraxel Restore,Refim และ Dual รวมทั้ง Fraxel Sellas จากประสบการณ์หลายปีของหมอคิดว่า ตระกูล Fraxel ได้ผลดีต่อหลุมสิว แผลเป็น รอยแตกลาย ริ้วรอย แต่สำหรับฝ้า จะดีเพียงชั่วคราว และฝ้ามักจะกลับมาใหม่
หลังทำ Fraxel Restore / Fraxel Sellas
ผิวจะออกชมพูถึงแดงจัด บางคนบวมเล็กน้อย ประมาณ 3-7 วัน (แล้วแต่สภาพผิว) เซลล์ผิวใหม่จะถูกสร้างมาทดแทนภายใน 24 ชั่วโมง เซลล์เก่าจะลอกหลุดเป็นจุดน้ำตาลเล็กๆ Bronzing ช่วงนี้ผิวจะเข้มขึ้น เป็นจุดน้ำตาลเล็กๆ ซึ่งจะค่อยๆหลุดจนทิ้งผิวสวยไว้แทนภายใน 5-10 วัน เซลล์ผิวที่สร้างใหม่จะกลับเป็นผิวปกติ แผลเป็น หลุมสิว รวมทั้งรูขุมขนกว่างดีขึ้น
อาการข้างเคียง
พบน้อยมาก แต่อาจพบผิวคล้ำหมอง หรือดำขึ้นชั่วคราวแล้วจึงค่อยๆขาว(เป็นปกติภายใน 1-3เดือน) อาการข้างเคียงของ Fraxel Restore และ FLT Sellas เท่ากัน ประมาณ 5-7% ส่วนอาการข้างเคียงของ Golden Sem พบน้อยมาก หรือเกิดก็จะหายเร็วมาก
*ผลการรักษาอาจมีการเปลี่ยนแปลงไปในแต่ละบุคคล