Hifu กับ Ultraformer ต่างกันยังไง ราคาวิธีการรักษา เทียบชัด!

การมีใบหน้าและรูปร่างที่กระชับเต่งตึงถือเป็นเสน่ห์ดึงดูดที่หลายคนใฝ่ฝัน เทคโนโลยียกกระชับใบหน้าและลำตัวจึงได้รับความนิยมอย่างมาก หนึ่งในตัวเลือกที่ได้รับความสนใจคือ Hifu กับ  Ultraformer แต่ทั้งสองเทคโนโลยีนี้มีความเหมือนและความแตกต่างกันอย่างไร? บทความนี้จะมาเปรียบเทียบข้อแตกต่าง ให้ทุกคนตัดสินใจเลือกได้อย่างมั่นใจ

Hifu คืออะไร?

Hifu (High-Intensity Focused Ultrasound) เป็นเทคโนโลยีการยกกระชับผิวแบบไม่ต้องผ่าตัด โดยใช้คลื่นอัลตราซาวด์ความเข้มข้นสูงส่งไปยังชั้นผิวหนังชั้นลึก กระตุ้นให้เกิดความร้อนและทำลายเนื้อเยื่อเก่า ไม่ต้องผ่าตัดหรือกรีดผิวหนัง จึงไม่มีแผลเป็น เหมาะกับผู้ที่ต้องการยกกระชับใบหน้าโดยไม่ต้องพักฟื้นนาน กลไกการทำงานของ Hifu นั้น เปรียบเสมือนการใช้แว่นขยายรวมแสงแดดไปยังจุดโฟกัส เมื่อคลื่นอัลตราซาวด์ไปถึงจุดโฟกัส พลังงานความร้อนจะถูกปล่อยออกมา ทำให้เนื้อเยื่อบริเวณนั้นมีความร้อนสูงถึง 60-70 องศาเซลเซียส ส่งผลให้เกิดการหดตัวของชั้น SMAS (ชั้นพังผืดที่อยู่ใต้ชั้นผิวหนัง) กระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและอีลาสตินใหม่ ผิวจึงมีความกระชับ ยืดหยุ่น รูขุมขนกระชับ ริ้วรอยและร่องลึกดูจางลง

Hifu ช่วยกระตุ้นการไหลเวียนโลหิต ส่งผลให้ผิวหน้าได้รับสารอาหารและออกซิเจนมากขึ้น ทำให้ผิวหน้าขาวกระจ่างใส เปล่งปลั่ง หลังการทำ Hifu สามารถใช้ชีวิตประจำวันได้ตามปกติ ผลลัพธ์อยู่ได้นาน 6-12 เดือน และสามารถทำซ้ำได้ทุก 3-6 เดือน เน้นยกกระชับใบหน้า ลดเลือนริ้วรอย ร่องลึก ปรับรูปหน้าให้เรียวขึ้น กระชับ ลดเหนียง และทำให้ผิวหน้าดูอ่อนเยาว์ลง ยกกระชับผิวได้ทั่วร่างกาย เช่น หน้าท้อง สะโพก ต้นขา ต้นแขน

Ultraformer III คืออะไร

Ultraformer III เป็นเทคโนโลยีที่ใช้คลื่นเสียงความถี่สูงชนิดพิเศษที่เรียกว่า MMFU (Micro & Macro Focused Ultrasound) ปล่อยพลังงานลงสู่ชั้นใต้ผิวหนังได้ทุกระดับชั้น โดยสามารถส่งพลังงานไปยังตำแหน่งความลึกที่ต้องการได้อย่างแม่นยำ โดยไม่ส่งผลกระทบต่อผิวหนังชั้นบน ปล่อยพลังงานความร้อนไปยังชั้น SMAS ส่งผลให้ผิวหน้าที่หย่อนคล้อยกลับมายกกระชับขึ้น กระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและอีลาสตินใหม่ ช่วยให้ผิวเรียบเนียน เต่งตึง กระชับขึ้น เห็นผลลัพธ์ที่ชัดเจนหลังทำเพียงครั้งเดียว ผลลัพธ์จะค่อยๆ ปรากฏชัดขึ้น ภายใน 1-2 เดือน และจะคงอยู่ได้นาน 6-12 เดือน

หลังทำ Ultraformer III สามารถใช้ชีวิตประจำวันได้ตามปกติ ไม่ต้องพักฟื้น Ultraformer III มีหัวรักษาหลายขนาด สามารถปรับแต่งการรักษาให้เหมาะสมกับปัญหาผิวของแต่ละบุคคล เหมาะกับผู้ที่มีปัญหาผิวหน้าหย่อนคล้อย ไม่กระชับ เช่น แก้มหย่อนคล้อย หนังตาตก กรอบหน้าไม่ชัด ต้องการปรับรูปหน้าให้เรียวขึ้นแบบ V-Shape และผู้ที่มีปัญหาผิวรอบดวงตาหย่อนคล้อย หนังตาตก ริ้วรอยรอบดวงตา

Hifu vs Ultraformer III ผลลัพธ์หลังทำต่างกันยังไง?

ทั้งสองวิธี ช่วยยกกระชับใบหน้า ลดริ้วรอย ร่องลึก กระตุ้นการสร้างคอลลาเจน และสลายไขมันใต้ชั้นผิว ซึ่งหลังทำ เห็นผลตั้งแต่หลังทำ 20% และเห็นผลชัดเจนใน 1-3 เดือน สำหรับทั้ง Hifu และ Ultraformer

ทั้งนี้หลังจากทำ Hifu และ Ultraformer II หลีกเลี่ยงล้างหน้าด้วยน้ำร้อนหรือน้ำอุ่น เพราะอาจทำให้ผิวระคายเคือง ทาครีมกันแดดที่มี SPF 30 ขึ้นไป งดสูบบุหรี่และดื่มแอลกอฮอล์เพราะเป็นการทำลายคอลลาเจนที่ชั้นใต้ผิวหนัง ดื่มน้ำให้เพียงพอ รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ เพื่อช่วยให้ผิวฟื้นฟูเร็วขึ้น ระหว่างนี้ควรงดกิจกรรมที่สัมผัสความร้อน เช่น การอบไอน้ำ การซาวน่า และงดนวดหน้า และเลเซอร์ 2 สัปดาห์

Hifu กับ Ultraformer III สรุปแล้วแบบไหนดีให้เหมาะกับผิว

  • Hifu เหมาะกับผู้ที่มีปัญหาผิวหย่อนคล้อย ริ้วรอยไม่ลึกมาก ต้องการยกกระชับใบหน้าโดยรวม ลดริ้วรอย และปรับรูปหน้า ต้องการความคุ้มค่า ราคาประหยัด 
  • Ultraformer III เหมาะกับผู้ที่ต้องการผลลัพธ์ที่ชัดเจน คงอยู่ยาวนาน ต้องการยกกระชับผิวแบบลึกๆ มีปัญหาผิวหย่อนคล้อย ริ้วรอยลึก ร่องแก้มชัดต้องการยกกระชับเฉพาะจุด เช่น ร่องแก้ม เปลือกตา ใต้คาง

ทั้งนี้ควรปรึกษากับแพทย์ผู้ชำนาญการเพื่อให้ได้รับการออกแบบการรักษาที่เหมาะสมกับแต่ละบุคคล

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมให้แพทย์ออกแบบการรักษาเฉพาะบุคคล คลิก!

คำถามที่พบบ่อย เกี่ยวกับ Hifu กับ ultraformer

UltraLift กับ Ultraformer ต่างกันยังไง

UltraLift และ Ultraformer ต่างเป็นเทคโนโลยีที่ใช้คลื่นเสียงความถี่สูง ยกกระชับผิวหน้า แต่มีความแตกต่างกันดังนี้
Ultraformer ใช้เทคโนโลยี MMFU (Micro Macro Focused Ultrasound) ส่งพลังงานความร้อนลงสู่ชั้นผิวได้หลายระดับ กระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและอีลาสติน เหมาะกับการยกกระชับผิวหน้า ลดเลือนริ้วรอย ผลลัพธ์อยู่ได้นาน 6-12 เดือน ส่วน UltraLift มีหลายรุ่น แต่ละรุ่นใช้เทคโนโลยีต่างกัน 

Ultraformer III กี่ ช็อตเห็นผล

จำนวนช็อตของ Ultraformer III ที่เห็นผล ขึ้นอยู่กับบริเวณที่ทำ: แต่ละบริเวณบนใบหน้าและลำคอ ต้องการจำนวนช็อตที่แตกต่างกัน
-รอบดวงตา: 100-150 shots
-หน้าผาก: 100-200 shots
-แก้ม: 200-400 shots
-เหนียง: 150-300 shots

ทำ Ultraformer แล้วทำ HIFU ต่อได้ไหม

ควรเว้นระยะก่อนทำ Hifu ประมาณ 2 สัปดาห์ เพื่อให้ผิวฟื้นฟูเต็มที่ และสามารถทำทรีทเม้นท์ต่อได้

ดูบทความอื่นๆ

Special Offer

ติดตาม ผิวดีคลินิค ทุกช่องทางได้ที่นี่

ให้เราดูแลทุกปัญหาผิวของคุณ พร้อมรับโปรโมชั่น ยกกระชับผิว หลากหลายแพ็กเกจ คลิก!