หลังจากผ่านการตั้งครรภ์และคลอดบุตรแล้ว สิ่งหนึ่งที่คุณแม่หลายคนกังวลใจคือปัญหาหน้าท้องที่เปลี่ยนแปลงไป ไม่ว่าจะเป็นหน้าท้องย้วย กล้ามเนื้อหน้าท้องแยก หรือรอยแตกลาย ซึ่งล้วนแต่ส่งผลต่อความมั่นใจและรูปร่างหลังคลอดทั้งสิ้น ปัญหาเหล่านี้เกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุ เช่น การขยายตัวของมดลูกและกล้ามเนื้อหน้าท้องในระหว่างตั้งครรภ์ การเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมน บทความนี้จะพาคุณแม่ไปทำความเข้าใจถึงสาเหตุของปัญหาหน้าท้องหลังคลอด รวมถึงวิธีการลดหน้าท้องหลังคลอด เพื่อให้คุณแม่ได้กลับมามีรูปร่างที่กระชับและมั่นใจในตัวเองอีกครั้ง
หลังคลอดคุณแม่ เปลี่ยนไปยังไงบ้าง?
หลังจากการคลอดบุตร ร่างกายของคุณแม่จะผ่านการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ โดยเฉพาะบริเวณหน้าท้อง ซึ่งเป็นส่วนที่ขยายตัวอย่างมาก เพื่อรองรับการเติบโตของทารกในครรภ์ทำให้มีพุงหลังคลอด แม้ว่าทารกและรกจะออกมาแล้ว แต่หน้าท้องของคุณแม่ยังคงดูใหญ่ เนื่องจากมดลูกยังคงมีขนาดใหญ่และต้องใช้เวลาในการหดตัวกลับเข้าสู่สภาวะปกติ รวมถึงการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนและการรับประทานอาหารในระหว่างตั้งครรภ์ อาจทำให้เกิดการสะสมของไขมันบริเวณหน้าท้องและส่วนอื่นๆ ของร่างกาย
ปัจจัยที่ทำให้พุงหลังคลอดไม่ลด พุงย้วย
มดลูกคุณแม่ยังไม่เข้าที่
ในช่วงตั้งครรภ์มดลูกจะขยายตัวเพื่อรองรับทารก เมื่อคลอดแล้วมดลูกจะค่อยๆ หดตัวกลับเข้าสู่สภาวะเดิม กระบวนการนี้ใช้เวลาประมาณ 6 สัปดาห์หรือนานกว่านั้น ในระหว่างนี้หน้าท้องอาจยังดูพองและไม่เข้ารูปจนทำให้คุณแม่หลายคนขาดความมั่นใจ
รับประทานอาหารจุกจิก
หลังคลอดคุณแม่มักจะต้องให้นมลูก ทำให้รู้สึกหิวบ่อยและอาจทานอาหารจุกจิกได้ง่าย ซึ่งอาหารเหล่านี้มักมีแคลอรี่สูงและไขมันมากเกินไป เมื่อร่างกายได้รับพลังงานมากกว่าที่ใช้ก็จะสะสมเป็นไขมันส่วนเกินบริเวณหน้าท้อง เกิดเป็นพุงย้วยหลังการคลอดนั่นเอง
ความเครียด และการนอนหลับพักผ่อนไม่เพียงพอ
ความเครียดและการนอนไม่หลับจะส่งผลต่อฮอร์โมนคอร์ติซอล ซึ่งเป็นฮอร์โมนที่เกี่ยวข้องกับการสะสมไขมันบริเวณหน้าท้อง นอกจากนี้ การพักผ่อนไม่เพียงพอจะทำให้ร่างกายผลิตฮอร์โมนเลปตินลดลง ซึ่งเป็นฮอร์โมนที่ควบคุมความอยากอาหาร ทำให้คุณแม่ทานอาหารมากขึ้นน้ำหนักเพิ่มขึ้นและพุงหลังคลอดก็เพิ่มตามไปด้วย
ปัญหาภาวะกล้ามเนื้อหน้าท้องแยก
ในระหว่างตั้งครรภ์กล้ามเนื้อหน้าท้องจะยืดออกเพื่อรองรับการเจริญเติบโตของทารก เมื่อคลอดลูกแล้ว กล้ามเนื้ออาจไม่กลับมาประกบกันสนิท ทำให้เกิดช่องว่างระหว่างกล้ามเนื้อ เป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้หน้าท้องย้วย ซึ่งการฟื้นฟูภาวะกล้ามเนื้อหน้าท้องแยกนั้นอาจต้องใช้เวลานานหลายเดือน
11 วิธีลดหน้าท้องหลังคลอด แก้หน้าท้องย้วย ที่น่าสนใจและปลอดภัย
1. ออกกำลังกายด้วยท่าสำหรับคุณแม่หลังคลอด
การออกกำลังกายเป็นวิธีที่สำคัญที่สุดในการลดพุงหลังคลอดและกระชับสัดส่วนหลังคลอด โดยเฉพาะท่าที่ออกแบบมาสำหรับคุณแม่หลังคลอดโดยเฉพาะ เช่น ท่าแพลงก์ จะช่วยเสริมสร้างกล้ามเนื้อหน้าท้องและกล้ามเนื้อส่วนล่างได้อย่างมีประสิทธิภาพ แต่การออกกำลังกาย ควรทำอย่างสม่ำเสมอจึงจะเห็นผลลัพธ์ที่ชัดเจน
2. คุมอาหาร
การควบคุมอาหารเป็นปัจจัยสำคัญในการลดพุงหลังคลอด คุณแม่หลังคลอดควรเน้นรับประทานอาหารที่มีโปรตีนสูง เช่น เนื้อสัตว์ไม่ติดมัน ไข่ นม ถั่ว เพื่อช่วยซ่อมแซมและสร้างกล้ามเนื้อ รวมถึงผักผลไม้ที่มีใยอาหารสูง ช่วยให้รู้สึกอิ่มนานและระบบขับถ่ายดีขึ้น ควรหลีกเลี่ยงอาหารแปรรูป อาหารทอด อาหารหวานจัด และเครื่องดื่มที่มีน้ำตาลสูงซึ่งเป็นแหล่งก่อให้เกิดการสะสมชองไขมัน
3. ลดพุงหลังคลอดด้วย Coolsclupting
Coolsculpting คือ เทคโนโลยีที่ได้รับความนิยมอย่างมากในการลดไขมันโดยไม่ต้องผ่าตัด โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับคุณแม่หลังคลอดที่ต้องการลดสัดส่วนบริเวณหน้าท้องที่หย่อนคล้อยหลังการตั้งครรภ์ ซึ่งสามารถเลือกกำจัดไขมันส่วนเกินเฉพาะจุด เช่น หน้าท้อง ต้นแขน ต้นขา สะโพก การทำ CoolSculpting จะช่วยกำจัดเซลล์ไขมันส่วนเกินได้อย่างถาวร เซลล์ไขมันที่ถูกทำลายจะค่อยๆ ถูกกำจัดออกจากร่างกาย ทำให้หน้าท้องกระชับขึ้นและเห็นผลลัพธ์ชัดเจนหลังทำ 1-3 เดือน ลดพุงหลังคลอดด้วย Coolsclupting เป็นการรักษาที่ไม่ต้องพักฟื้น เหมาะสำหรับคุณแม่ที่มีเวลาน้อยอย่างยิ่ง
4. แก้ปัญหาหน้าท้องย้วยด้วย Thermage FLX
Thermage FLX เป็นเทคโนโลยีที่ได้รับความนิยมอย่างมากในการยกกระชับผิว โดยเฉพาะสำหรับคุณแม่หลังคลอดที่มีปัญหาหน้าท้องย้วยหลังการตั้งครรภ์ เทคโนโลยีนี้ทำงานโดยการใช้พลังงานวิทยุความถี่สูง เพื่อกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและอีลาสตินใต้ผิวหนัง ช่วยแก้ปัญหาหน้าท้องหย่อนคล้อยที่เกิดจากการตั้งครรภ์ ทำให้หน้าท้องกลับมาดูเรียบแบน ลดเลือนเซลลูไลท์ที่เกิดขึ้นบริเวณหน้าท้อง ทำให้ผิวเรียบเนียนขึ้น ช่วยให้ผิวแข็งแรงขึ้น ลดรอยแตกลาย และทำให้ผิวดูอ่อนเยาว์ ที่สำคัญหลังทำสามารถกลับไปใช้ชีวิตประจำวันได้ตามปกติ
เลือกทำ Coolsclupting และ Thermage FLX ที่ PEWDEE CLINIC เพื่อลดหน้าท้องหลังคลอด เป็นก้าวที่ดีในการดูแลรูปร่าง เพราะเราใช้เครื่องมือที่มีมาตรฐาน มีแพทย์ผู้ชำนาญพร้อมให้คำแนะนำและประเมินสภาพผิวให้เหมาะสม.ให้มั่นใจถึงความปลอดภัย
5. การอยู่ไฟหลังคลอด
การอยู่ไฟเป็นภูมิปัญญาไทยโบราณที่ใช้ความร้อนจากสมุนไพรหรือวัตถุร้อนอื่นๆ ช่วยขับลม โดยเชื่อว่าการอยู่ไฟจะช่วยขับน้ำคาวปลาและบรรเทาอาการปวดเมื่อยให้กับคุณแม่หลังคลอดได้ สำหรับแนวคิดที่ว่าการอยู่ไฟช่วยลดพุงหลังคลอดนั้น มาจากการที่ความร้อนช่วยกระตุ้นการไหลเวียนโลหิต ทำให้ร่างกายเผาผลาญพลังงานได้ดีขึ้น เมื่อการเผาผลาญดีขึ้น จะส่งผลให้พุงหน้าท้องถูกเผาผลาญและลดลงตามไปด้วย
6. นวดหน้าท้อง
การนวดหน้าท้องหลังคลอด ช่วยกระตุ้นการไหลเวียนโลหิต ลดอาการบวม และช่วยให้กล้ามเนื้อผ่อนคลาย แต่ไม่สามารถลดไขมันได้โดยตรง การนวดอาจช่วยให้ผิวรู้สึกกระชับขึ้นชั่วคราว ไม่สามารถแก้ปัญหาผิวหย่อนคล้อยได้อย่างถาวร ดังนั้นควรดูแลด้วยวิธีอื่นๆควบคู่ไปด้วย
7. แขม่วหน้าท้อง
การแขม่วหน้าท้องเป็นการออกกำลังกายที่ง่าย ช่วยเสริมสร้างกล้ามเนื้อหน้าท้องส่วนลึก ทำให้หน้าท้องดูเรียบแบนขึ้น ช่วยเสริมสร้างกล้ามเนื้อหน้าท้องและลดอาการปวดหลังได้ แต่การแขม่วหน้าท้องเพียงอย่างเดียว อาจไม่เพียงพอที่จะลดหน้าท้องและไขมันส่วนเกินได้ ควรทำควบคู่ไปกับการออกกำลังกายแบบอื่นๆ
8. ดื่มน้ำเยอะๆ
การดื่มน้ำเยอะๆ ช่วยให้ร่างกายขับของเสียได้ดี ทำให้ผิวพรรณสดใส และยังช่วยกระตุ้นการผลิตน้ำนมอีกด้วย การดื่มน้ำเยอะๆ ไม่ได้ช่วยลดหน้าท้องโดยตรง เนื่องจากการลดหน้าท้องนั้นเกี่ยวข้องกับการลดไขมันสะสมบริเวณหน้าท้อง การดื่มน้ำเพียงอย่างเดียวไม่สามารถสลายไขมันได้ แต่การดื่มน้ำเพียงพอจะช่วยให้ระบบเผาผลาญทำงานได้ดีมากขึ้น ช่วยให้ร่างกายของแม่ฟื้นตัวหลังคลอดได้เร็วขึ้น
9. ให้ลูกกินนมแม่
การให้นมลูกช่วยลดหน้าท้องหลังคลอดได้ การผลิตน้ำนมต้องใช้พลังงานจำนวนมาก ร่างกายจึงดึงไขมันที่สะสมไว้มาใช้ในการผลิตนม ทำให้ช่วยเผาผลาญพลังงานและลดไขมันส่วนเกินได้ การให้นมลูกจะกระตุ้นให้ฮอร์โมนออกซิโทซินหลั่งออกมา ซึ่งฮอร์โมนชนิดนี้มีหน้าที่ช่วยให้มดลูกหดตัวกลับเข้าอู่เร็วขึ้น ทำให้หน้าท้องยุบเร็วขึ้น
10. ใส่ผ้ารัดหน้าท้อง
ผ้ารัดหน้าท้องจะช่วยให้หน้าท้องดูเรียบตึงขึ้น โดยเฉพาะหลังจากการผ่าคลอด ผ้ารัดหน้าท้องจะช่วยพยุงมดลูกและลดอาการปวด การใส่ผ้ารัดหน้าท้อง ช่วยลดหน้าท้องได้ในระดับหนึ่ง เพราะเป็นเพียงส่วนเสริมในการช่วยให้หน้าท้องดูเรียบตึงขึ้น แต่เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีในการลดหน้าท้อง ควรทำควบคู่ไปกับการดูแลสุขภาพอื่นๆด้วย
11. ทานไขมันดี
การทานไขมันดีเป็นสิ่งสำคัญที่ช่วยให้สุขภาพดีและสามารถช่วยลดหน้าท้องหลังคลอดได้ ไขมันดี หรือไขมันไม่อิ่มตัวเช่น ไขมันจากปลา อะโวคาโด มีประโยชน์หลายอย่างต่อร่างกาย โดยเฉพาะการช่วยกระตุ้นการทำงานของฮอร์โมนที่เกี่ยวข้องกับการเผาผลาญไขมัน ทำให้ร่างกายเผาผลาญพลังงานได้ดีขึ้น และยังช่วยลดการอักเสบในร่างกายด้วย
ทำไมต้องลดหน้าท้องหลังคลอดที่ PEWDEE CLINIC
การลดหน้าท้องหลังคลอดเป็นความต้องการของคุณแม่หลายๆ คน เพราะการตั้งครรภ์ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงของรูปร่าง โดยเฉพาะบริเวณหน้าท้องย้วย ซึ่งอาจทำให้ขาดความมั่นใจ ที่ Pewdee Clinic เราใช้เทคโนโลยีล่าสุดในการสลายไขมันและกระชับผิว เช่น CoolSculpting ซึ่งเป็นการสลายไขมันด้วยความเย็น และ Thermage ที่ช่วยลดพุงหลังคลอดได้ในระยะเวลาที่เร็วรวด ช่วยให้คุ
คำถามที่พบบ่อย เกี่ยวกับลดหน้าท้องหลังคลอด
ทำยังไงให้หน้าท้องยุบเร็วหลังคลอด
– ลดพุงหลังคลอดด้วย Coolsclupting เป็นการรักษาที่ไม่ต้องพักฟื้นนาน เหมาะสำหรับคุณแม่ที่มีเวลาน้อย ซึ่งสามารถเลือกกำจัดไขมันส่วนเกินเฉพาะจุด เช่น หน้าท้อง ต้นแขน ต้นขา สะโพก การทำ CoolSculpting จะช่วยกำจัดเซลล์ไขมันส่วนเกินได้อย่างถาวร เซลล์ไขมันที่ถูกทำลายจะค่อยๆ ถูกกำจัดออกจากร่างกาย ทำให้หน้าท้องกระชับขึ้นและเห็นผลลัพธ์ชัดเจนหลังทำ 1-3 เดือน
– แก้ปัญหาหน้าท้องย้วยด้วย Thermage FLX เป็นเทคโนโลยีที่ทำงานโดยการใช้พลังงานวิทยุความถี่สูง เพื่อกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและอีลาสตินใต้ผิวหนัง ช่วยแก้ปัญหาหน้าท้องหย่อนคล้อยที่เกิดจากการตั้งครรภ์ ทำให้หน้าท้องกลับมาดูเรียบแบน ลดเลือนเซลลูไลท์ที่เกิดขึ้นบริเวณหน้าท้อง ทำให้ผิวเรียบเนียนขึ้น ช่วยให้ผิวแข็งแรงขึ้น ลดรอยแตกลาย และทำให้ผิวดูอ่อนเยาว์ ที่สำคัญหลังทำสามารถกลับไปใช้ชีวิตประจำวันได้ตามปกติ
หลังคลอดหน้าท้องจะยุบตอนไหน
ในช่วงตั้งครรภ์มดลูกจะขยายตัวเพื่อรองรับทารก เมื่อคลอดแล้วมดลูกจะค่อยๆ หดตัวกลับเข้าสู่สภาวะเดิม กระบวนการนี้ใช้เวลาประมาณ 6 สัปดาห์หรือนานกว่านั้น ในระหว่างนี้หน้าท้องอาจยังดูพองและไม่เข้ารูป
ทำไมหลังคลอดท้องไม่ยุบ
– มดลูกคุณแม่ยังไม่เข้าที่ ในช่วงตั้งครรภ์มดลูกจะขยายตัวเพื่อรองรับทารก เมื่อคลอดแล้วมดลูกจะค่อยๆ หดตัวกลับเข้าสู่สภาวะเดิม
– รับประทานอาหารจุกจิก หลังคลอดคุณแม่มักจะต้องให้นมลูก ทำให้รู้สึกหิวบ่อยและอาจทานอาหารจุกจิกได้ง่าย ซึ่งอาหารเหล่านี้มักมีแคลอรี่สูงและไขมันมากเกินไป จนสะสมเป็นไขมันส่วนเกินบริเวณหน้าท้อง
– ความเครียดและการนอนหลับพักผ่อน จะส่งผลต่อฮอร์โมนคอร์ติซอล ซึ่งเป็นฮอร์โมนที่เกี่ยวข้องกับการสะสมไขมันบริเวณหน้าท้อง นอกจากนี้ การพักผ่อนไม่เพียงพอจะทำให้ร่างกายผลิตฮอร์โมนเลปตินลดลง ซึ่งเป็นฮอร์โมนที่ควบคุมความอยากอาหาร ทำให้คุณแม่ทานอาหารมากขึ้นน้ำหนักเพิ่มขึ้นและพุงหลังคลอดก็เพิ่มตามไปด้วย
– ปัญหาภาวะกล้ามเนื้อหน้าท้องแยก ในระหว่างตั้งครรภ์กล้ามเนื้อหน้าท้องจะยืดออกเพื่อรองรับการเจริญเติบโตของทารก เมื่อคลอดแล้ว กล้ามเนื้ออาจไม่กลับมาประกบกันสนิท ทำให้เกิดช่องว่างระหว่างกล้ามเนื้อ ซึ่งเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้หน้าท้องย้วย
ทำยังไงให้หน้าท้องหลังคลอดยุบ
ออกกำลังกายด้วยท่าสำหรับคุณแม่หลังคลอด, ควบคุมอาหาร เน้นรับประทานอาหารที่มีโปรตีนสูง, ลดพุงหลังคลอดด้วย Coolscluptin จะช่วยกำจัดเซลล์ไขมันส่วนเกินได้อย่างถาวร, แก้ปัญหาหน้าท้องย้วยด้วย Thermage FLX ช่วยแก้ปัญหาหน้าท้องหย่อนคล้อยที่เกิดจากการตั้งครรภ์ ทำให้หน้าท้องกลับมาดูเรียบแบน ลดเลือนเซลลูไลท์ที่เกิดขึ้นบริเวณหน้าท้อง, การอยู่ไฟหลังคลอด เชื่อว่าช่วยขับลม ขับน้ำคาวปลาและบรรเทาอาการปวดเมื่อยหลังคลอด, นวดหน้าท้องหลังคลอด ช่วยกระตุ้นการไหลเวียนโลหิต ลดอาการบวม และช่วยให้กล้ามเนื้อผ่อนคลาย, แขม่วหน้าท้องเป็นการออกกำลังกายที่ง่าย ช่วยเสริมสร้างกล้ามเนื้อหน้าท้องส่วนลึก ทำให้หน้าท้องดูเรียบแบนขึ้น, ดื่มน้ำเยอะๆ ช่วยให้ร่างกายขับของเสียได้ดีและยังช่วยกระตุ้นการผลิตน้ำนมอีกด้วย, การให้นมลูกช่วยลดหน้าท้องหลังคลอดได้, ผ้ารัดหน้าท้องจะช่วยให้หน้าท้องดูเรียบตึงขึ้น โดยเฉพาะหลังจากการผ่าคลอดผ้ารัดหน้าท้องจะช่วยพยุงมดลูกและลดอาการปวด ช่วยลดหน้าท้องได้ในระดับหนึ่งและทานไขมันดี เช่น ไขมันจากปลา อะโวคาโด