โบท็อกซ์ยี่ห้อไหนดี 2024 เปรียบเทียบโบอเมริกา เกาหลี เยอรมัน

โบท็อกซ์ยี่ห้อไหนดี

การเลือก โบท็อกซ์ยี่ห้อไหนดี เป็นเรื่องสำคัญสำหรับผู้ที่ต้องการลดริ้วรอยและรักษาผิวให้ดูอ่อนเยาว์ ซึ่งในปี 2024 นี้  โบท็อกซ์กลายเป็นหนึ่งในตัวเลือกยอดนิยมสำหรับการเสริมความงามในปัจจุบัน ช่วยให้ลดเลือนริ้วรอยและปรับรูปหน้าให้เรียวสวย แต่ด้วยตัวเลือกที่มีหลากหลายหลายยี่ห้อ หลายคนอาจสงสัยว่า เติมโบท็อกซ์ยี่ห้อไหนดี เพราะว่ามีหลายยี่ห้อที่ได้รับความนิยมจากประเทศต่าง ๆ เช่น อเมริกา เกาหลี และเยอรมัน บทความนี้จะเปรียบเทียบยี่ห้อโบท็อกซ์จากสามประเทศนี้ เพื่อช่วยให้คุณตัดสินใจเลือกยี่ห้อที่เหมาะสมและตอบโจทย์กับความต้องการของคุณมากที่สุด

โบท็อกซ์ช่วยอะไร ?

โบท็อกซ์ช่วยอะไร ? โบท็อกซ์เป็นการใช้โปรตีนบล็อกเซลล์ประสาทที่ทำให้กล้ามเนื้อไม่สามารถกระตุ้นและหดตัวได้ ซึ่งมักนำมาใช้ในการรักษาปัญหาที่เกี่ยวกับเส้นรอยและริ้วรอยบนใบหน้า โดยเฉพาะในการลดเลือนเส้นรอยของเส้นรอยเหี่ยวย่นและเพิ่มความยืดหยุ่นให้กับผิวหน้า

การเติมโบท็อกซ์นั้นใช้เวลาในการเห็นผลลัพธ์ไม่นาน และผู้ที่รับการรักษาสามารถกลับไปทำกิจวัตรประจำได้ทันทีหลังจากการรักษา ผลลัพธ์จะเห็นได้ในช่วงเวลา 3-14 วัน และจะคงอยู่ประมาณ 3-6 เดือน การใช้โบท็อกซ์ถือว่าปลอดภัยและมีประสิทธิภาพ เมื่อมีการใช้โดยแพทย์ที่มีความชำนาญในด้านความงาม และปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์อย่างถูกต้อง โดยการใช้โบท็อกซ์มักจะช่วยให้ใบหน้าดูอ่อนเยาว์และสดใสขึ้นได้

ทำความรู้จักกับโบท็อกซ์แต่ละประเทศ โบท็อกซ์ยี่ห้อไหนดีที่สุด ?

โบท็อกซ์เป็นชื่อที่เรียกกันทั่วไปสำหรับผลิตภัณฑ์ที่ใช้สารโบทูลินัม ท็อกซิน ชนิด A Clostridium botulinum นำมาผ่านกระบวนการทำให้บริสุทธิ์และเจือจางจนมีความปลอดภัยและมีประสิทธิภาพในการใช้งานทางการแพทย์และความงาม ดังนั้น โบท็อกซ์ยี่ห้อไหนดีที่สุด นั้นขึ้นอยู่กับหลายปัจจัยและแต่ละปัญหาผิวของแต่ละบุคคล ซึ่งปัจจุบันนี้มีโบท็อกซ์หลายยี่ห้อจากหลายประเทศ แต่ละยี่ห้อมีคุณสมบัติและจุดเด่นที่แตกต่างกัน ดังนี้

จุดเด่นของยี่ห้อโบท็อกซ์ทั้ง 3 ประเทศ

1. โบท็อกซ์อเมริกา (Allergan)

  • เป็นโบท็อกซ์ตัวแรกที่ได้รับการอนุมัติจาก FDA
  • มีงานวิจัยรองรับมากที่สุด
  • ผลลัพธ์ยาวนาน 3-4 เดือน
  • เหมาะกับการลดริ้วรอยร่องลึก เช่น รอยตีนกา รอยระหว่างคิ้ว

2. โบเกาหลี (Aestox, Botulax, โบท็อกยี่ห้อนาโบตะ)

  • ผลลัพธ์ยาวนาน 3-4 เดือน
  • เหมาะกับการลดริ้วรอยร่องลึกและริ้วรอยรอยยิ้ม

3. โบเยอรมัน (Xeomin)

  • บริสุทธิ์สูง
  • ผลลัพธ์ยาวนาน 3-4 เดือน
  • เหมาะกับการลดริ้วรอยร่องลึก

ก่อนการเติมโบท็อกซ์เตรียมตัวอย่างไร

เมื่อทำการจองคิวเติมโบท็อกซ์แล้ว การเตรียมตัวอย่างถูกต้องและเหมาะสมก่อนการเติมเป็นสิ่งสำคัญ เพื่อผลลัพธ์ที่มีประสิทธิภาพ

  • งดการใช้ยาแก้ปวดกลุ่ม NSAIDs: เช่น Aspirin, Ibuprofen, Naproxen
  • งดอาหารเสริมและวิตามินที่ส่งผลต่อการแข็งตัวของเลือด: เช่น วิตามิน E, วิตามิน C, น้ำมันปลา หรือใบแปะก๊วย เป็นเวลา 1 สัปดาห์
  • งดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และสูบบุหรี่: อย่างน้อย 24 ชั่วโมงก่อนการเติม
  • งดสครับหน้า และงดใช้กลุ่มยาผลัดเซลล์ผิว: เช่น ยากลุ่มกรดวิตามิน A, AHA, เรตินอล, และสครับหน้า เป็นเวลา 1-2 วัน
  • แจ้งประวัติการรักษา: หากเคยผ่าตัด หรือเคยเติมสารเติมมาก่อน ต้องแจ้งเจ้าหน้าที่ก่อนทำหัตถการ
  • แจ้งประวัติโรคประจำตัวและการแพ้: ผู้ที่มีโรคประจำตัวหรือมีประวัติแพ้ยา แพ้อาหาร ต้องแจ้งกับเจ้าหน้าที่ก่อนทำหัตถการทุกครั้ง

วิธีดูแลผิวหลังเติมโบท็อกซ์

การดูแลผิวหลังเติมโบท็อกซ์มีความสำคัญมาก เนื่องจากผลลัพธ์จะอยู่ได้นานแค่ไหนขึ้นอยู่กับการดูแลผิวอย่างเหมาะสม โดยมีรายละเอียดดังนี้

  • ไม่ควรจับหรือนวดบริเวณที่รักษา: การกระจายตัวของยาอาจได้รับผลกระทบจากการจับหรือนวด
  • ไม่ควรนอนราบหรือนอนตะแคงในช่วง 4 ชั่วโมงแรก: เป็นช่วงที่ตัวยากำลังซึมเข้าสู่กล้ามเนื้อ หากนอนราบหรือนอนตะแคง ยาอาจเคลื่อนจากตำแหน่งที่แพทย์วางไว้
  • งดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และสูบบุหรี่ 2 สัปดาห์: เพื่อให้ผลลัพธ์การเติมโบท็อกซ์มีประสิทธิภาพสูงสุด
  • งดทำหน้า หรือนวดหน้า 2 สัปดาห์: เพื่อป้องกันการเคลื่อนตัวของตัวยา
  • หลีกเลี่ยงการโดนแสงแดดโดยตรง: และทาครีมกันแดดสม่ำเสมอ เพื่อปกป้องผิวที่บอบบางหลังการเติม
  • งดทำกิจกรรมที่อยู่ในสถานที่ร้อน ๆ: เช่น การอบไอน้ำ ซาวน่า ปิ้งย่าง ชาบู หรือหมูกระทะ
  • งดออกกำลังกายอย่างหนัก: เพื่อป้องกันการกระจายตัวของตัวยา
  • งดการทายาหรือเครื่องสำอางที่ก่อให้เกิดการระคายเคือง: เช่น กรดวิตามินเอ, AHA, วิตามินซี ภายใน 24 ชั่วโมงแรก

โบท็อกซ์จากทั้ง 3 ประเทศ เป็นโบท็อกซ์อันตรายไหม ?

โบท็อกซ์ เมื่อใช้โดยแพทย์ผู้ชำนาญการ ที่ผ่านประสบการณ์ และอยู่ในปริมาณที่เหมาะสม โดยทั่วไปแล้วไม่ถือว่าเป็นอันตราย  อย่างไรก็ตามโบท็อกซ์นั้นอาจจะไม่เหมาะ ผู้ที่มีโรคประจำตัวบางชนิด หรือ กำลังตั้งครรภ์ ให้นมบุตร ดังนั้นก่อนตัดสินใจเติมโบท็อกซ์ ควรปรึกษาแพทย์ผู้ชำนาญการอย่างละเอียด แจ้งประวัติการแพ้ยา  โรคประจำตัว และยาที่รับประทานอยู่ เพื่อประเมินความเสี่ยง และเลือกวิธีการรักษาที่เหมาะสมกับคุณ

ทั้งนี้ การเลือกประเภทของโบท็อกซ์ที่เหมาะสมก็ขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายประการ เช่น บริเวณที่ต้องการเติม ผลลัพธ์ที่ต้องการ งบประมาณ ประวัติการแพ้ยา และความน่าเชื่อถือของคลินิก เป็นต้น และถ้าหากว่ายังไม่แน่ใจว่าจะเติมโบท็อกซ์ที่ไหนดี สามารถลองปรึกษา Pewdee Clinic และทีมแพทย์ผู้ชำนาญการ มุ่งมั่นให้บริการเติมโบท็อกซ์ด้วยมาตรฐานสูงสุด ในบรรยากาศคลินิกที่ได้มาตรฐาน สะอาด และทันสมัย 

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม

ให้แพทย์ออกแบบการรักษาเฉพาะบุคคล คลิก !

คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับ โบท็อกยี่ห้อไหนดี 2024

เติมโบท็อกซ์กี่วันเห็นผล

โดยทั่วไปแล้วจะไม่เห็นผลทันที ต้องใช้เวล ประมาณ 3-7 วัน กล้ามเนื้อบริเวณที่เติมจะเริ่มตึงขึ้นและเห็นผลเต็มที่  ประมาณ 2-4 สัปดาห์ อย่างไรก็ตามระยะเวลาอาจแตกต่างกันไป ขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายประการ ดังนี้
บริเวณที่เติม: กล้ามเนื้อบริเวณ หน้าผาก และ หางตา มักเห็นผลเร็วกว่าบริเวณกราม
ยี่ห้อของโบท็อกซ์: แต่ละยี่ห้อมีสูตรและกลไกการออกฤทธิ์ที่แตกต่างกัน
สภาพร่างกายของแต่ละบุคคล: ร่างกายของแต่ละคนอาจตอบสนองต่อโบท็อกซ์แตกต่างกัน

ราคาโบท็อกซ์ แต่ละประเทศ แต่ละบริเวณ ราคาเท่าไหร่

ราคาโบท็อกซ์เท่าไหร่นั้น ขึ้นอยู่กับสภาพผิวและปัญหาผิวของแต่ละบุคคล สามารถสอบถามแพทย์ผู้ชำนาญการเพื่อประเมินการรักษาที่ถูกต้องให้กับคุณ 

โบท็อกซ์อยู่ได้กี่เดือน

โดยเฉลี่ยแล้วโบท็อกซ์แต่ละยี่ห้อมีระยะเวลาการออกฤทธิ์ดังนี้
Allergan (โบท็อกซ์อเมริกา): 3-4 เดือน
Xeomin (โบเยอรมัน): 3-4 เดือน
Nabota (โบเกาหลี): 3-4 เดือน
Aestox (โบเกาหลี): 3-4 เดือน

ดูบทความอื่นๆ

Special Offer

ติดตาม ผิวดีคลินิค ทุกช่องทางได้ที่นี่

ให้เราดูแลทุกปัญหาผิวของคุณ พร้อมรับโปรโมชั่น ยกกระชับผิว หลากหลายแพ็กเกจ คลิก!