สาเหตุหลักของ ฝ้า กระ จุดด่างดำ ส่วนใหญ่เกิดจากการผลิตเม็ดสีผิวที่มากเกินไป(Melanin pigment) หรือการผลิตเม็ดสีที่ไม่เท่ากัน ซึ่งเกิดจากทั้งปัจจัยภายใน คือฮอร์โมนจากภายในหรือการตั้งครรภ์จากกรรมพันธุ์ และปัจจัยภายนอก เช่น แสงแดดหรือฮอร์โมนที่ร่างกายได้รับ (ยาที่มีฮอร์โมนเพศ เป็นต้น)
ฝ้า (Melasma) คือ ปื้ันหรือแผ่นดำกระจายตามโหนกแก้ม หน้าผาก จมูก เกิดจากเม็ดสีสะสมใต้ผิวหนังมากผิดปกติ ฝ้ามีหลายชนิด คือ ฝ้าตื้น ฝ้าลึก และฝ้าผสม
ฝ้ามี 4 ชนิดคือ
1. ฝ้าแบบตื้น จะอยู่ในระดับผิวหนังกำพร้า(ผิวหนังชั้นนอก) มักมีลักษณะเป็นสีน้ำตาลขอบชัด เกิดได้ง่าย และสามารถรักษาให้หายได้เร็ว นอกจากนี้ ฝ้าชนิดนี้ยังรักษาได้โดยการใช้ ยาทาฝ้าอ่อนๆ และ ยาทากันแดด ก็สามารถลบเลือนฝ้าให้ดีขึ้นได้
2. ฝ้าแบบลึก จะมีเม็ดสีเมลานินสีน้ำตาลดำ จำนวนมากกว่าปกติ อยู่ในชั้นที่ลึกกว่าฝ้าแบบตื้น โดยจะเกิดฝ้าในระดับที่ลึกกว่าผิวหนังกำพร้า จะเกิดความผิดปกติในระดับชั้นผิวหนังแท้ มีลักษณะเป็นสีน้ำตาล น้ำตาลเข้มถึงดำ ขอบเขตไม่ชัด รักษาได้ยากกว่าฝ้าชนิดตื้น และไม่ค่อยหายขาด การใช้ยาทาฝ้าอ่อนๆ และยาทากันแดด เพียงแต่ช่วยให้ดีขึ้นเท่านั้น การจะรักษาฝ้าลึกให้ดีขึ้นได้ ต้องใช้เลเซอร์ที่สามารถลงลึกเข้าไปในชั้นผิวหนังด้านใน โดยไม่ทำลายผิวชั้นนอก
3. ฝ้าผสม คือฝ้าที่มีเม็ดสีเมลานิน อยู่ที่ผิวหนังชั้นบน(Epidermis) และอยู่ในผิวหนังชั้นใน(Dermis) หลังทายาฝ้าจะพบว่าเงาฝ้าบางส่วนจางลง แต่ฝ้าที่อยู่ลึกๆจะไม่ค่อยได้ผล สำหรับเม็ดสีฝ้า(Melanin) ที่อยู่ลึกๆต้องใช้เลเซอร์ที่สามารถลงได้ลึกถึงผิวหนังชั้นในโดยไม่ทำอันตรายต่อผิวชั้นบน ตัวเลเซอร์ที่ได้ผลคือ Fractional Nd Yag (เช่น DHL, DFHL Laser) PTP Mode Nd Yag ล่าสุดเทคโนโลยีที่ทำลายเม็ดสีได้ละเอียดสูงโดยไม่เกิดความร้อน ไม่ทำลายผิว ก็คือ Picosecond , Picosure Laser
4. กรณีที่เป็นฝ้าเส้นเลือด บริเวณที่เป็นฝ้าออกสีแดง หรือมีเส้นเลือดฝอยบริเวณนั้นเยอะ รักษาด้วย V.Perfecta, PTR laser, Vascular laser