10 วิธีรักษารอยดําจากสิว เร็วที่สุด ภายใน 1 อาทิตย์ ปี 2024!

รอยดำ รอยแดงจากสิว ยังคงเป็นปัญหากวนใจสำหรับผู้ที่เป็นสิว แม้ว่าสิวจะหายไปแล้ว แต่ก็ยังทิ้งรอยสิวที่เป็นจุดด่างดำบนใบหน้าจนทำให้เสียความมั่นใจ รอยดำ รอยแดงจากสิวบางครั้งอาจใช้เวลานานกว่าจะจางลง ดังนั้น ในบทความนี้จะมาแชร์การรักษารอยแดง รอยดำ จากสิว  วิธีรักษารอยดําจากสิว เร็วที่สุด ทั้งวิธีหัตถการและธรรมชาติ 

สิวคืออะไร รอยสิวเกิดขึ้นได้อย่างไร?

สิว (Acne) คือ การอักเสบของรูขุมขน และต่อมไขมัน ทำให้เกิดการอุดตันของรูขุมขน โดยปกติแล้วรูขุมขนจะเปิดเพื่อขับน้ำมันและเซลล์ผิวหนังที่ตายแล้วออกจากรูขุมขน แต่เมื่อรูขุมขนอุดตัน สิ่งเหล่านี้จะสะสมอยู่ใต้ผิวหนัง ทำให้มีตุ่มนูนแดงที่เรียกว่า สิว นั่นเอง 

สาเหตุของสิว มาจากหลายสาเหตุ ไม่ว่าจะเป็นฮอร์โมนเพศที่กระตุ้นให้ต่อมไขมันผลิตน้ำมันมากจนขับออกจากรูขุมขนไม่ทัน ทำให้เกิดการอุดตันขึ้นได้  แบคทีเรียที่อาศัยอยู่ในรูขุมขนและย่อยสลายน้ำมันหรือเซลล์ผิวหนังที่ตายแล้วอุดตันรูขุมขน

รอยสิวเกิดขึ้นได้อย่างไร?

รอยสิวเกิดจากกระบวนการฟื้นฟูสภาพผิวโดนทำลายจากการเกิดสิว ทำให้เกิดรอยสิวขึ้นหลังจากสิวหาย รอยสิวส่วนใหญ่เกิดจากสิวอักเสบที่ส่งผลต่อชั้นผิวหนังที่ลึกลงไป กระตุ้นให้เกิดรอยแดง รอยดำ และรอยแผลเป็น บ่อยครั้งเกิดจากการแกะ เกา หรือบีบสิวจนทำให้เป็นรอยแดง รอยช้ำ นอกจากนี้การโดนแสงแดดจะกระตุ้นให้เกิดรอยดำ รอยคล้ำได้ง่ายอีกด้วย 

รอยสิว มีประเภทอะไรบ้าง ที่ควรรู้

รอยสิวเป็นปัญหาผิวที่พบบ่อยหลังจากสิวอักเสบหาย รอยสิวมีหลายประเภท แต่ละประเภทมีลักษณะและวิธีรักษาที่แตกต่างกัน

1. รอยแดง

เกิดจากเส้นเลือดฝอยบริเวณที่สิวอักเสบขยายใหญ่ มักมีสีแดง ชมพู หรือม่วง พบได้บ่อยในผู้ที่มีผิวขาว รอยแดงมักจางลงและหายไปเองภายใน 3-6 เดือน แต่บางกรณีอาจใช้เวลานานกว่านั้น

2. รอยดำ

เกิดจากการผลิตเม็ดสีเมลานินมากเกินไป มักมีสีน้ำตาล ดำ หรือคล้ำ หากสงสัยว่ารอยดําจากสิว กี่วันหาย ต้องบอกเลยว่ารอยดำใช้เวลาในการหายไปเองนานกว่ารอยแดง มักเกิดเป็นจุดดำฝังลึกอาจอยู่ทนนานเป็นปีหรือหลายปีถึงจางลง

3. หลุมสิว

เกิดจากการสูญเสียคอลลาเจนและอีลาสติน มีลักษณะเป็นหลุม lõm บนใบหน้า เกิดหลุมสิว ผิวไม่เรียบเนียน

4. รอยแผลเป็นนูน

เกิดจากการเจริญเติบโตของเนื้อเยื่อคอลลาเจนมากเกินไป มีลักษณะเป็นเนื้อนูน แข็ง บนใบหน้า

10 วิธีรักษารอยดําจากสิว เร็วที่สุด ปี 2024

รอยดําจากสิว รักษายังไง? โดยปกติ รอยสิวจะจางลงและหายไปเองภายใน 2-4 เดือน แต่บางกรณีรอยสิวอาจอยู่ทนนานเป็นปี รักษารอยสิวทำได้ทั้งการปล่อยให้รอยหายเอง การทาครีม และการทำหัตถการต่างๆ 

สำหรับวิธีรักษารอยดําจากสิว เร็วที่สุดนั้น การลดรอยสิวด้วยหัตถการ เช่น เลเซอร์รอยสิว จะเป็นวิธีลดรอยสิวเร่งด่วนกว่าแบบธรรมชาติ 

การรักษารอยดําจากสิว เร่งด่วน มีดังนี้

1. ฉีดเมโสหน้าใส

การฉีดเมโสหน้าใสเป็นวิธีการรักษารอยสิวที่ช่วยลบเลือนรอยแผลเป็น และริ้วรอย เป็นการฉีดที่ย่อยสลายเองได้ ปลอดภัย ไม่อันตราย เพื่อไปช่วยกระตุ้นการผลิตคอลลาเจนและอีลาสติน ซึ่งช่วยปรับปรุงเนื้อสัมผัสและความยืดหยุ่นของผิวช่วยลดเม็ดสีเมลานิน ทำให้รอยดำ รอยฝ้า กระ จางลง ผิวดูกระจ่างใส

2. ฉีดมาเด้คอลลาเจน

การฉีดมาเด้คอลลาเจนเป็นที่ช่วยลดรอยสิว โดยการฉีดสารประกอบที่ประกอบด้วยคอลลาเจน กรดอะมิโน วิตามิน และแร่ธาตุเข้าสู่ชั้นผิวหนังโดยตรง สารเหล่านี้ช่วยกระตุ้นการผลิตคอลลาเจนและอีลาสตินของร่างกาย ซึ่งช่วยปรับปรุงเนื้อสัมผัสและความยืดหยุ่นของผิว

3. เลเซอร์รอยสิว

เลเซอร์รอยสิวเป็นวิธีรักษารอยดําจากสิว เร็วที่สุด ด้วยการใช้พลังงานแสงเลเซอร์ความเข้มข้นสูง ยิงลงไปบนผิวหนังบริเวณที่มีรอยสิว แสงเลเซอร์จะไปกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและอีลาสติน ช่วยให้ผิวหนังเกิดการซ่อมแซมตัวเอง ส่งผลให้รอยสิวดูจางลง เรียบเนียนขึ้น และสีผิวสม่ำเสมอ

เลเซอร์รอยสิว ราคาแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับประเภทของเลเซอร์ รอยสิว และสภาพผิว โดยปกติจะต้องทำการรักษา 3-5 ครั้ง ขึ้นไป

4. ทำ Hifu

Hifu ไม่ได้ถูกออกแบบมาเพื่อรักษารอยสิวโดยเฉพาะ แต่ Hifu ให้ผลลัพธ์ที่ช่วยลดรอยสิวได้ เนื่องจากช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและอีลาสตินใต้ชั้นผิว ส่งผลให้ผิวหนังมีความยืดหยุ่น เรียบเนียน รูขุมขนกระชับ รอยสิวดูตื้นขึ้น และช่วยกระตุ้นการไหลเวียนโลหิตใต้ชั้นผิว ช่วยให้ผิวได้รับสารอาหารและออกซิเจนมากขึ้น ส่งผลให้รอยสิวดูจางลง

5. ฉีดฟิลเลอร์หลุมสิว

การฉีดฟิลเลอร์หลุมสิวเป็นวิธีการรักษารอยสิวประเภทรอยหลุมสิว รอยแผลเป็นจากสิว ช่วยให้ผิวเรียบเนียนขึ้น โดยใช้สารเติมเต็มประเภท Hyaluronic Acid ฉีดเข้าใต้ชั้นผิวหนังบริเวณที่มีรอยสิว ทำให้ผิวเรียบเนียบขึ้น

ทั้งนี้ยังมี วิธีลดรอยสิว รอยดํา รอยแดงโดยวิธีแบบธรรมชาติ มีดังนี้ 

6. ทานวิตามินเสริม

การทานวิตามินเสริม สามารถช่วยลดรอยสิว รอยดํา รอยแดงได้บ้าง แต่ผลลัพธ์อาจไม่ชัดเจนเท่าการรักษาด้วยวิธีอื่น วิตามินเสริมที่แนะนำคือ Vitamin C, A,  B3 วิตามินเหล่านี้จะช่วยให้ผิวแข็งแรง ยับยั้งการผลิตเม็ดสี ทำให้รอยสิวจางลงได้

7. การทาครีมลดรอยสิว

การทาครีมที่มีส่วนผสมของ AHA BHA วิตามินซี วิตามินอี Whitening สามารถช่วยผลัดเซลล์ผิว ลดการอักเสบ ช่วยลดการสร้างเม็ดสีเมลานินได้ หรือสำหรับผู้ที่มีสิวแพ้ง่ายแนะนำให้ทาว่านหางจระเข้ลดรอยสิว เพราะมีสารต้านการอักเสบ ช่วยลดอาการแดง บวมได้

8. ใช้ยาทาแผลเป็น

รอยสิวที่เกิดจากการอักเสบของผิวหนัง ใช้ยาทาแผลเป็นบางชนิดมีส่วนผสมที่ช่วยลดการอักเสบ จะช่วยลดรอยแดงได้ นอกจากนี้ยังช่วยลดหลุมสิวได้อีก ยาทาแผลเป็นบางชนิดมีส่วนผสมที่ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน ช่วยให้ผิวหนังเรียบเนียน

9. สครับหน้าลดรอยสิว

การสครับหน้า เป็นวิธีการผลัดเซลล์ผิว ช่วยขจัดเซลล์ผิวเก่า เผยผิวใหม่ที่พร้อมรับการบำรุงที่ดี การสครับหน้าช่วยขจัดสิ่งสกปรก น้ำมัน และแบคทีเรียที่อุดตันรูขุมขน ถือว่าช่วยลดการเกิดสิวใหม่ แต่ควรระวังหากสครับแรงไปอาจทำให้เกิดการระคายเคืองผิวได้  

10. พอกสมุนไพร

การพอกหน้าด้วยสมุนไพรไทย   เช่น มะขามเปียก  แตงกวา ขมิ้นชัน มะนาว สามารถช่วยรักษารอยดำจากสิวได้ บางชนิดมีวิตามินซี ช่วยผลัดเซลล์ผิว ทำให้ลดรอยสิวให้จางลงและกระชับรูขุมขนได้ด้วย

วิธีการป้องกันไม่ให้เกิดรอยสิว ฉบับอัปเดต

1. รักษาสิวอย่างถูกวิธี

ใช้ผลิตภัณฑ์ล้างหน้าที่อ่อนโยน ทาครีมรักษาสิวอย่างสม่ำเสมอ ไม่แกะ เกา หรือบีบสิว นอกจากนี้ควรดูแลผิวให้แข็งแรงอย่างสม่ำเสมอ เพื่อไม่ให้เกิดสิวเพิ่ม

2. ปกป้องผิวจากแสงแดด

ทาครีมกันแดดที่มี SPF 30 ขึ้นไปเป็นประจำทุกวัน ช่วยป้องกันผิวที่โดนทำร้ายจากแสงแดดได้ 

3. ทานอาหารที่มีประโยชน์

ทานผัก ผลไม้ และธัญพืช หลีกเลี่ยงอาหารที่มีไขมันสูง น้ำตาลสูง อาหารแปรรูป และอาหารทอด

4. พักผ่อนให้เพียงพอ

นอนหลับพักผ่อนอย่างน้อย 7-8 ชั่วโมงต่อวัน และลดสะสมความเครียด

5. ปรึกษาแพทย์ด้านผิวหนัง

แพทย์สามารถให้คำแนะนำในการรักษาสิวและป้องกันรอยสิวได้อย่างเหมาะสม และรักษาได้อย่างตรงจุด

วิธีรักษารอยดําจากสิว เร็วที่สุดในปัจจุบัน คงจะเป็นการเลเซอร์รอยสิว แต่จะเลเซอร์รอยสิว ที่ไหนดีนั้นควรเลือกคลินิกที่น่าเชื่อถือและปลอดภัย 

ผิวดีคลินิก เราพร้อมดูแลทุกปัญหาผิวและแก้ปัญหาผิวให้กับคุณ
ไม่ว่าจะปัญหาฝ้าที่รักษายาก ปัญหาแผลเป็น รอยสิว ริ้วรอย
สามารถปรึกษาฟรี ที่ LINE

คำถามที่พบบ่อย เกี่ยวกับวิธีรักษารอยดำจากสิว เร็วที่สุด

ทำยังไงให้รอยดำสิวหาย

วิธีรักษารอยดำจากสิวมีทั้งวิธี ธรรมชาติ เช่น ทาครีมลดรอยดำ การสคลับผิว  ทานวิตามินเสริม และวิธีหัตถการทางการแพทย์ เช่น  เลเซอร์รอยสิว ฉีดเมโสหน้าใส ฉีดฟิลเลอร์หลุมสิว หรือทำ Hifu ซึ่งแนะนำเป็นวิธีหัตถการเพราะรอยดำหายได้เร็ว และไม่มีผลข้างเคียง

รอยดำจากสิวกี่วันหาย

โดยปกติ รอยดำจากสิว อาจจางลงและหายไปเอง ภายใน 2-4 เดือน หรือนานกว่านั้น แต่การรักษาด้วยวิธีที่ดี สามารถช่วยให้รอยสิวจางลงได้ไวมากขึ้น เช่น การ ทำเลเซอร์ หรือ การทายาที่มีส่วนผสมของวิตามินซี AHA BHA

ทําไงให้สิวหาย ภายใน 1 อาทิตย์

วิธีที่สามารถช่วยให้สิวยุบลงได้ภายใน 1 อาทิตย์ เช่น ยาทาสิวที่มีส่วนผสมของ Benzoyl Peroxide Salicylic Acid หรือ Retinoids ใช้ แผ่นแปะสิว หรือกดสิวแบบถูกวิธี โดยแพทย์ผู้ชำนาญการ

เลเซอร์รอยสิว เห็นผลกี่วัน

เลเซอร์รอยสิว เห็นผลได้ตั้งแต่ 1 อาทิตย์แรกหลังจากทำ และจะเริ่มเห็นผลชัดเจนหลังทำ เลเซอร์ ประมาณ 2-4 ครั้ง รอยสิวจะค่อยๆ จางลงผิวเรียบเนียนขึ้นและรูขุมขนเล็กลง

รักษารอยสิวใช้เวลากี่เดือน

รอยสิวมักจะค่อย ๆ จางลงได้เองตามธรรมชาติ แต่อาจใช้เวลานานถึง 2 เดือนหรือมากกว่านั้น แต่มีวิธีรักษาสิวแบบต่างๆ อย่างการทำเลเซอร์ จะช่วยให้รอยสิวจางลงได้ไวขึ้น และไม่ทำร้ายผิวด้วย

ดูบทความอื่นๆ

Special Offer

ติดตาม ผิวดีคลินิค ทุกช่องทางได้ที่นี่

ให้เราดูแลทุกปัญหาผิวของคุณ พร้อมรับโปรโมชั่น ยกกระชับผิว หลากหลายแพ็กเกจ คลิก!