เลเซอร์ สิวอุดตัน เป็นทางเลือกกำจัดสิวที่มีประสิทธิภาพสูง เช่น การรักษาสิวโดยใช้ Co2 Laser เนื่องจากสามารถเห็นผลได้อย่างชัดเจนหลังจากทำ รวมถึงช่วยลดจำนวนสิวต่าง ๆ ทั้งสิวอุดตัน สิวอักเสบ รอยแดง รอยดำจากสิว และหลุมสิว ช่วยให้ผิวหน้าเรียบเนียน กระจ่างใสได้อีกด้วย วันนี้เราเลยจะพาทุกคนมาเข้าความรู้จักกับการเลเซอร์ สิวอุดตัน เพื่อเป็นข้อมูลประกอบการตัดสินใจสำหรับผู้ที่สนใจใช้เลเซอร์รักษาสิว
เลเซอร์สิว คืออะไร
สิวอุดตันเกิดจาก ต่อมไขมันใต้ผิวหนังผลิตไขมันมากเกินไป ไขมันเหล่านี้จะอุดตันรูขุมขน หรือเซลล์ผิวหนังที่ตายแล้วสะสมบนผิวหนัง ไม่หลุดลอกออกไป อุดตันรูขุมขน หรือแบคทีเรีย P.Acnes บนผิวหนัง เจริญเติบโตในรูขุมขนที่อุดตัน การรักษาสิวอุดตันทำได้หลายวิธี ทั้งการยาทา ยากิน และที่นิยมคือ การเลเซอร์ สิวอุดตัน
เลเซอร์สิว คือ การใช้พลังงานแสงเลเซอร์เข้มข้นสูง ยิงลงบนผิวหนังบริเวณที่มีสิว เพื่อรักษาสิวอักเสบ สิวอุดตัน รอยแดง และรอยดำจากสิว ช่วยให้ผิวเรียบเนียน กระจ่างใสขึ้น เลเซอร์สิว ราคา จะแตกต่างกัน แล้วแต่ประเภท โดยมีกลไกการทำงานหลัก คือ ฆ่าเชื้อแบคทีเรีย P.acnes ลดการอักเสบ ควบคุมการผลิตน้ำมัน กระตุ้นการสร้างคอลลาเจน และ กระชับรูขุมขน
เลเซอร์สิว มีกี่แบบ
เลเซอร์รักษาสิวแบ่งได้หลายประเภทตามประเภทของสิวและรอยสิว เช่น เลเซอร์สิวกลุ่มที่รักษาสิวอุดตัน สิวอักเสบ สิวผด กลุ่มเลเซอร์สิวที่รักษารอยแดงที่เกิดจากสิว กลุ่มเลเซอร์สิวที่รักษารอยดำและกลุ่มเลเซอร์สิวที่รักษาหลุมสิว แผลเป็นจากสิว
เลเซอร์สิวมีหลายแบบ แต่ละแบบมีจุดเด่นและเหมาะกับปัญหาสิวที่แตกต่างกัน ดังนั้นการรักษาสิวควรปรึกษาแพทย์เพื่อเลือกเลเซอร์ที่เหมาะสมกับปัญหาผิวของคุณ ดังนี้
1. เลเซอร์ CO2
CO2 Laser คือ เลเซอร์ที่ใช้ก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์เป็นตัวกลางในการสร้างแสงเลเซอร์ มีความยาวคลื่น 10,600 นาโนเมตร ซึ่งสามารถดูดซึมได้ดีโดยน้ำ เลเซอร์ CO2 ช่วยเรื่องอะไร? คำตอบคือ CO2 เป็นเลเซอร์ สิวอุดตันที่นิยมมาก เหมาะสำหรับสิวอุดตัน สิวอักเสบ หลุมสิว รอยแผลเป็น ช่วยเปิดช่องของต่อมไขมัน ฆ่าเชื้อสิว ลดการอักเสบ เลเซอร์ co2 หลังทํา ควรดูแลผิวอย่างถูกวิธี แล้วต้องทำ fractional co2 laser กี่ครั้ง เห็นผล? ควรทำ 3-4 ครั้ง จะได้ผลลัพธ์ชัดเจน ที่ผิวดีคลินิกมีนวัตกรรม รักษาด้วย CO2 ช่วยให้สิวหาย ผิวเรียบเนียน โดยไม่ต้องเจ็บตัว รับรองมาตรฐานความปลอดภัยจาก US FDA และรักษาโดยแพทย์ผู้ชำนาญการ
2. Omnilux
Omnilux คือ นวัตกรรมแสงบำบัด (Light Therapy) ที่ใช้พลังงานแสง LED ความเข้มข้นสูง ในการรักษาปัญหาผิวหนัง โดยเฉพาะสิว ประกอบไปด้วย 2 แสงหลัก คือ แสงสีน้ำเงิน ที่มีประสิทธิภาพในการฆ่าเชื้อแบคทีเรีย P.Acnes สาเหตุหลักของการเกิดสิว และแสงสีแดง ช่วยในการลดการอักเสบ กระตุ้นการสร้างคอลลาเจน ซ่อมแซมผิวหนัง เหมาะสำหรับสิวเรื้อรัง สิวอักเสบ สิวผดผื่น
3. Pico Laser
Pico Laser เทคโนโลยีเลเซอร์ปล่อยพลังงานแสงความถี่สูง ด้วยความเร็วสูงสุดที่ระดับ 1 ต่อล้านล้านวินาที รักษาเม็ดสีใต้ชั้นผิวหนัง (Hyperpigmentation)สามารถควบคุมเฉพาะเจาะจงกับจุดที่ยิงได้อย่างแม่นยำ ไม่ทำให้ผิวไหม้ เหมาะสำหรับเลเซอร์รอยสิว หลุมสิว ฝ้า กระ กระตุ้นคอลลาเจน ช่วยในเรื่องผิวเรียบเนียนขึ้น แก้ปัญหาริ้วรอยต่าง ๆ .ให้ผิวที่หมองคล้ำมาแต่กำเนิดให้ขาวกระจ่างใสอมชมพูมากขึ้น
4. เลเซอร์ V-beam
V-beam Laser เป็นเลเซอร์ชนิด Pulsed Dye Laser (PDL) ใช้แสงเลเซอร์สีเหลืองที่มีความยาวคลื่น 595 นาโนเมตร แสงเลเซอร์จะถูกดูดซับโดยเส้นเลือดฝอยและเม็ดสีใต้ผิวหนัง
เป็นเลเซอร์รอยสิว ช่วยในการลดรอยแดงจากสิว ลดเส้นเลือดฝอย ลดรอยแผลเป็นและกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน เหมาะสำหรับรอยแดง เส้นเลือดฝอย สิวอักเสบ มีความปลอดภัยสูง ไม่ทำร้ายผิวรอบข้าง
ข้อดีของการเลเซอร์สิว
- รักษาสิวได้อย่างมีประสิทธิภาพ
- เหมาะกับทุกสภาพผิว
- ผลข้างเคียงน้อย
- ใช้เวลาในการรักษาไม่นาน
- ช่วยให้ผิวเรียบเนียน กระจ่างใส
ข้อจำกัดของเลเซอร์สิว
เลเซอร์สิวเป็นวิธีการรักษาสิวที่มีประสิทธิภาพ แต่เลเซอร์สิวสามารถช่วยลดจำนวนสิวและรอยสิว แต่ไม่สามารถรักษาสิวให้หายขาดได้ อาจจำเป็นต้องกลับมาทำเลเซอร์ซ้ำอีก หรือใช้ยารักษาสิวร่วมด้วย เลเซอร์สิวไม่ใช่การรักษาแบบฉับพลัน การรักษาอาจต้องทำเลเซอร์หลายครั้ง ถึงจะเห็นผลลัพธ์ที่ชัดเจน และการดูแลผิวหลังเลเซอร์ก็เช่นกัน ต้องทาครีมกันแดดเป็นประจำ ดื่มน้ำเยอะๆ เพื่อช่วยบำรุงผิวให้ชุ่มชื้น และลดการเกิดสิว
เลเซอร์สิวเหมาะกับใคร?
เลเซอร์สิวเหมาะกับผู้ที่มีปัญหาสิว ทั้งสิวอักเสบ สิวอุดตัน ผู้ที่มีรูขุมขนกว้าง ผู้ที่มีปัญหาหลุมสิว เลเซอร์สิวสามารถช่วยลดการอักเสบของสิว ทำให้สิวอักเสบยุบลง บวมแดงน้อยลง และช่วยให้สิวแห้งเร็วขึ้น สามารถช่วยละลายหัวสิวอุดตัน ช่วยให้สิวอุดตันหลุดออก ช่วยกระชับรูขุมขน ทำให้ผิวหน้าเรียบเนียนขึ้น
เลเซอร์สิวไม่เหมาะกับใคร?
สำหรับผู้ที่มีสิวอักเสบรุนแรง อาจพบแพทย์เพื่อขอแนะนำก่อน ผู้หญิงตั้งครรภ์ หรือให้นมบุตรรวมถึงผู้ที่มีโรคประจำตัวบางชนิด เช่น โรคลมชัก โรคหัวใจ โรคไต ควรงดเลเซอร์สิว
ก่อนเลเซอร์สิวต้องเตรียมตัวอะไรบ้าง
การเตรียมตัวก่อนเลเซอร์สิวจะช่วยลดผลข้างเคียงและช่วยให้การรักษาได้ผลลัพธ์ที่ดี ผู้เข้ารับการรักษาควรปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด
1. หลีกเลี่ยงแสงแดด
ควรหลีกเลี่ยงแสงแดดอย่างน้อย 1-2 สัปดาห์ก่อนเลเซอร์สิว
2. งดใช้ผลิตภัณฑ์บางชนิด
งดใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของกรด AHA/BHA, เรตินอล, วิตามินเอ, ยาแต้มสิว และยาที่มีผลต่อการแข็งตัวของเลือด ประมาณ 1 สัปดาห์ก่อนเลเซอร์สิว
3. แจ้งแพทย์เกี่ยวกับยาที่รับประทาน
แจ้งแพทย์เกี่ยวกับยาที่รับประทานเป็นประจำ โดยเฉพาะยาที่มีผลต่อการแข็งตัวของเลือด เช่น แอสไพริน ยาต้านการอักเสบ NSAIDs
4. ทำความสะอาดผิวหน้า
ควรทำความสะอาดผิวหน้าให้สะอาดและล้างเครื่องสำอางออกให้หมด ในวันที่มาเลเซอร์สิว
5. งดอาหารและเครื่องดื่มบางชนิด
ควรงดอาหารและเครื่องดื่มที่มีผลต่อการแข็งตัวของเลือด เช่น แอลกอฮอล์ อาหารหมักดอง อาหารทะเล อาหารรสเผ็ด ก่อนการรักษาประมาณ 24 ชั่วโมง
6. พักผ่อนให้เพียงพอ
ควรพักผ่อนให้เพียงพอ นอนหลับอย่างน้อย 7-8 ชั่วโมงก่อนการรักษา
ขั้นตอนวิธีการเลเซอร์สิว
ขั้นตอนวิธีการเลเซอร์สิวอาจแตกต่างกันไป ขึ้นอยู่กับชนิดของเลเซอร์ที่ใช้ และคลินิกที่เลือก แต่โดยทั่วไปแล้ว ขั้นตอนมีดังนี้
1. ปรึกษาแพทย์
แพทย์จะประเมินปัญหาสิว สภาพผิว โรคประจำตัว ยาที่รับประทาน และความคาดหวังจากการรักษา ทั้งนี้หากเลเซอร์สิวที่ผิวดีคลินิก จะมีแพทย์ผู้ชำนาญการออกแบบการรักษาเฉพาะบุคคล และประเมินปัญหาผิวอย่างละเอียด
2. ทำความสะอาดผิวหน้า
เจ้าหน้าที่จะทำความสะอาดผิวหน้าให้สะอาดและล้างเครื่องสำอางออกให้หมด
3. ทายาชา
แพทย์จะทายาชาบริเวณที่จะเลเซอร์ ทิ้งไว้ประมาณ 30-45 นาที
4. ยิงเลเซอร์
แพทย์จะใช้เครื่องเลเซอร์ยิงลงบนผิวหนังบริเวณที่มีสิว ใช้เวลาประมาณ 10-30 นาที
5. ทายา
แพทย์จะทายาและแนะนำวิธีการดูแลผิวหลังการรักษา
6. นัดหมายติดตามผล
แพทย์จะนัดหมายติดตามผลเพื่อดูผลลัพธ์ของการรักษา
วิธีดูแลตัวเองหลังเลเซอร์สิว
การดูแลตัวเองหลังเลเซอร์สิวเป็นสิ่งที่สำคัญมาก ช่วยให้การรักษาได้ผลลัพธ์ที่ดี และลดโอกาสเกิดผลข้างเคียง
1. ทายาตามแพทย์ให้ตามคำแนะนำ พร้อมดื่มน้ำให้เพียงพอ
2. หลีกเลี่ยงแสงแดดและทาครีมกันแดด SPF 30 ขึ้นไป
3. งดแต่งหน้าใน 24 ชั่วโมงแรก งดการล้างหน้าใน 24 ชั่วโมงแรก เลี่ยงการขัดถู รวมถึงห้ามแกะ เกา หรือบีบสิว
4. งดการออกกำลังกายหนัก และงดการอบซาวน่า เพราะหลังเลเซอร์ผิวจะบอบบางเป็นพิเศษ
5. พบแพทย์ตามนัด เพื่อติดตามผล
และสิ่งที่สำคัญที่สุด ควรหลีกเลี่ยงแสงแดด ทาครีมกันแดดเป็นประจำ และทำความสะอาดผิวหน้าอย่างอ่อนโยน
เลเซอร์สิวกี่วันหาย?
หากให้ระบุว่า “เลเซอร์สิวกี่วันหาย?” เนื่องจากผลลัพธ์ของการรักษาด้วยเลเซอร์สิวแตกต่างกันออกไป ขึ้นอยู่กับหลายปัจจัยทั้งชนิดของเลเซอร์ ความรุนแรงของสิวและสภาพผิว แต่โดยทั่วไปแล้ว อาการของสิวจะดีขึ้นภายใน 14 วันหลังการเลเซอร์สิว
แน่นอนว่าการเลือกคลินิกสำหรับการเลเซอร์ สิวอุดตันนั้นสำคัญมาก ผิวดีคลินิก เรามีแพทย์ชำนาญการ ให้การดูแลผิว พร้อมทั้งแนะนำโปรโมชั่นที่เหมาะกับผิวของคุณตลอดเวลา มั่นใจเรื่องความปลอดภัย เพราะที่นี่มีประสบการณ์การดูแลผิวให้คนไข้กว่า 30 ปี
สามารถปรึกษาเรื่องปัญหาผิวฟรี ที่ LINE
คำถามที่พบบ่อย เกี่ยวกับเลเซอร์สิวอุดตัน
เลเซอร์สิวอุดตันกี่บาท
เลเซอร์สิวอุดตันกี่บาทนั้นขึ้นอยู่กับจำนวนสิวอุดตัน คิดตามจำนวนเม็ดสิวอุดตันที่ยิงเลเซอร์ เช่น 10 จุด 1,000 บาท ครั้งละ 10 – 30 จุด ราคา 2,000 บาท หรือหากมีจำนวนมากๆ ก็จะยิ่งเป็นราคาพิเศษ
เลเซอร์สิวอุดตันหายขาดไหม
สำหรับการเลเซอร์สิวอุดตันนั้น หากทำให้หายขาดไหม จำเป็นต้องรักษาหลายครั้งอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดี รวมถึงการดูแลผิวหลังเลเซอร์ หากทาครีมกันแดดเป็นประจำ หลีกเลี่ยงการแกะ เกา สิว ก็จะช่วยดูแลผิวได้นาน
เลเซอร์สิวอุดตัน กี่วันหาย
หลังทำเลเซอร์สิวอุดตัน บริเวณที่ทำจะดีขึ้นภายใน 14 วันหลังการเลเซอร์สิว ทั้งนี้หากรักษาเป็นประจำจะยิ่งช่วยให้ผิวบริเวณที่เป็นสิวเรียบเนียน และดีขึ้นตามลำดับ
เลเซอร์สิวอุดตัน ที่ไหนดี
การเลือกคลินิกสำหรับการเลเซอร์ สิวอุดตันควรเลือกที่สะอาด ปลอดภัย ผิวดีคลินิก เรามีแพทย์ชำนาญการ ให้การดูแลผิว และมีประสบการณ์ยาวนานกว่า 30 ปี พร้อมทั้งแนะนำโปรโมชั่นที่เหมาะกับผิวของคุณตลอดเวลา
เลเซอร์สิวอุดตัน ดีไหม
เลเซอร์ สิวอุดตัน เป็นทางเลือกรักษาสิวที่มีประสิทธิภาพ เนื่องจากสามารถเห็นผลได้อย่างชัดเจนหลังจากทำ รวมถึงช่วยลดจำนวนสิวต่าง ๆ ทั้งสิวอุดตัน สิวอักเสบ รอยแดง รอยดำจากสิว และหลุมสิว อีกทั้งไม่ทำร้ายผิว เป็นวิธีการที่ปลอดภัยสำหรับคนที่มีปัญหาสิวต่างๆ